วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สระบุรี จัดพิธี เจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันวิสาขบูชา



              สระบุรี-จัดพิธี เจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และเวียนเทียนงาน เนื่องในวันวิสาขบูชา
     




             วันที่ 29 พ.ค. 61 ที่ศาลาอบรมพระสงฆ์เฉลิมพระเกียรติ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำข้าราชการและพี่น้องพุทธศสาสนิกชนร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และกล่าวแสดงตนเป็นพุทธมามะกะ  ร่วมสวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียน รอบมณฑปรอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เนื่องในวันวิสาขบูชา
     




               ทั้งนี้ คณะสงฆ์จังหวัดสระบุรี ร่วมกับจังหวัดสระบุรี ได้ จัดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2561 ณ วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท  เพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน  ได้รำลึกถึงหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   ในการน้อมนำไปประพฤติ ปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน  เพื่อให้มีความสุขสงบต่อตนเองและ ครอบครัว





               วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากล้วนมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระศาสดา คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน โดยทั้ง 3 เหตุการณ์ได้เกิด ณ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับวันวิสาขบูชานี้ และในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2542 องค์การสหประชาชาติได้ยอมรับญัตติที่ประชุม กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก โดยเรียกว่า Vesak Day ตามคำเรียกของชาวศรีลังกา ผู้ที่ยื่นเรื่องให้สหประชาชาติพิจารณา และได้กำหนดวันวิสาขบูชานี้ถือเป็นวันหยุดวันหนึ่งของสหประชาชาติอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญเนื่องในวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระบรมศาสดา โดยการที่สหประชาชาติได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลกนั้น ได้ให้เหตุผลไว้ว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนา เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณ โดยไม่คิดค่าตอบแทน






(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)  บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น