วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557
คสช.คาดตั้งศูนย์รับแรงงานกลับเสร็จไม่เกินสิ้นมิถุนายน นี้
คสช.ยันไม่กวาดล้างแรงงานกัมพูชา คาดตั้งศูนย์รับกลับเสร็จไม่เกินสิ้นมิ.ย. : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงเดินหน้าจัดระเบียบ “แรงงานต่างด้าว” ที่มีปัญหาเรื้อรังมานาน ท่ามกลางข่าวลือว่ามีการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวทำให้แรงงานชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศกันเป็นจำนวนมาก
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (กนร.) จึงได้มอบหมายให้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานอนุกรรมการประสานงานการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (อนกร.) ไปดำเนินการแก้ไขปัญหา
คณะดังกล่าวมี นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน ลงตรวจพื้นที่ที่มีปัญหาแรงงานต่างด้าวที่บ้านเอื้ออาทร ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อลงไปรับทราบปัญหาข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ เป็นที่รับรู้กันดีว่า จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่ที่ใช้แรงงานต่างด้าวมากเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ โดยมีแรงงานที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด 196,579 คน มีแรงงานที่ไม่ได้จดทะเบียนประมาณ 180,000-190,000 คน ซึ่งเป็นแรงงานสัญชาติพม่ามากที่สุด คาดว่าทั้งจังหวัดมีแรงงานต่างด้าวประมาณ 4 แสนคน
โดยข้อเสนอเรื่องการจัด "โซนนิ่ง" เพื่อควบคุมแรงงานต่างด้าว พล.อ.ศิริชัย กล่าวว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการ โดยวัตถุประสงค์ของการจัดโซนนิ่งคือการควบคุมแรงงานเพื่อให้อยู่เป็นพื้นที่เพื่อสะดวกต่อการควบคุม โดยมีแนวคิดให้ จ.สมุทรสาคร และจ.ระนอง เป็นจังหวัดต้นแบบ หรือ "โมเดล" ในการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว
พล.อ.ศิริชัย กล่าวว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาที่สลับซับซ้อน มีหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน มีกฎหมายหลายฉบับ และมีภาคเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเกิดมาจากหลายสาเหตุ ดังนี้
1.ที่ผ่านมาไม่เคยมีแผนการใช้แรงงานโดยภาพรวมของประเทศ 2.มีหลายหน่วยงานเข้ามาแก้ปัญหาทำให้ขาดเอกภาพ 3.การบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง และ 4.มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ขณะที่ปัญหาเแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมากนั้น พล.อ.ศิริชัย ระบุว่า จากรายงานทราบว่าเป็นแรงงานที่เข้ามาโดยผิดกฎหมายบวกกับข่าวลือ ยืนยันว่า คสช.ไม่มีนโยบายที่จะปราบปรามหรือผลักดันแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ซึ่งการจัดระเบียบจะต้องทำควบคู่กันไปทั้งแรงงานต่างด้าว และเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมาย ส่วนเจ้าหน้าที่ทำผิดกฎหมายจะต้องถูกลงโทษ
นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ยอดสุทธิจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของผู้อพยพออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 7-15 มิถุนายน 2557 จำนวน 91,308 คน แบ่งเป็น จ.สระแก้ว 87,455 คน จ.จันทบุรี 3,810 คน และ จ.ตราด 43 คน
ทั้งนี้ กรมการจัดหางานได้ประสานกับประเทศต้นทางเพื่อให้ออกเอกสารการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และตามเอ็มโอยูที่ทำกันไว้ โดยประเทศต้นทางจะมาตั้งหน่วยที่ปอยเปต ส่วนฝั่งไทยจะมีการตั้งจุดเพื่อรับคนเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยการถือพาสปอร์ตเข้ามา ขณะที่แรงงานที่กลับไปส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงเกรงกลัวว่าจะมีการปราบปราม
"คสช.ไม่มีนโยบายการปราบปรามจับกุม เมื่อเดินทางออกไปแล้วก็สามารถกลับเข้ามาใหม่ได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ประเทศต้นทางได้รายงานให้ทราบว่าการทำพาสปอร์ตสามารถทำได้โดยง่าย จึงไม่น่าวิตกกังวล ซึ่งการตั้งศูนย์จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้"
อธิบดีกรมการจัดหางานระบุว่า ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ใน "ภาคก่อสร้าง" ซึ่งจะขาดแคลนไปอีกเดือนกว่าๆ จากนั้นจะมีแรงงานมาชดเชย ส่วนการจัดโซนนิ่งในแต่ละจังหวัดจะแตกต่างกัน เช่น จ.ระนอง ที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมากจะกำหนดให้มี "ผู้นำชุมชน" ดูแลความเรียบร้อย ส่วนพื้นที่อื่นจะกำหนดตามความเหมาะสมต่อไป
ข้อมูล komchadluek ลิขิต รักอยู่ สมุทรสาครนิวส์ 098-8416393 , 087-7651354
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น