เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 3 ก.ย.ร.ต.ท.ณรงค์ วังเสาร์ พงส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจาก ร.ต.ต.นิคม ปานชา รอง สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีขี่รถจักรยานยนต์ชนรถชาวบ้านเสียหายและบาดเจ็บที่ริมถนนสายชัยนาท-สุพรรณบุรี หมู่ 4 ต.สนามชัย จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ศาสตรา คงนาม สว.สส. พ.ต.ต.รัชชาติ สุขสวัสดิ์ สวป.กำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบร่างนายเอกพันธ์สิงห์พลาย อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 4 ต.หนองปริง อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟสีน้ำเงิน ทะเบียน กวล 511 สุพรรณบุรี มีรอยชนล้มอยู่กลางถนนใกล้กันมีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน ฮก 4786 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างทางท้ายรถมีรอยถูกชนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีคนร้ายหลบหนีไปได้ 1คนเจ้าหน้าที่จึงรีบกระจายกำลังออกติดตามจับกุมได้ที่ร่องสวนของชาวบ้านห่างจุดเกิดเหตุ ประมาณ 500 เมตรทราบชื่อนายนพดล แก้วประเสริฐ หรือต้นสวนแตง อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี บาดเจ็บที่แขนและหลัง
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ต.นิคม ปานชา รอง สวป.ทำหน้าที่ขับรถร้อยเวร ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยใส่กุญแจมือร้อยโซ่สลับมือติดกับรถเมื่อรถถึงทางเข้าศาลจังหวัดริมถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท รถได้ชะลอความเร็วนายเอกพันธ์ หรือเอกหนองปริง ได้สะเดาะกุญแจมือออกแล้วกระโดดลงจากรถยนต์ วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ของนายนพดล ซึ่งขับตามหลังมารับแล้วพาขับย้อนศรหลบหนีข้ามถนนเข้าในตัวเมืองสุพรรณบุรี ช่วงจังหวะเกิดเหตุ ร.ต.ต.นิคม ซึ่งสังเกตเห็นได้รีบกลับรถขับไล่ติดตามกระทั่งรถคนร้ายเสียหลักชนท้ายรถตู้ชาวบ้านที่จอดอยู่ข้างทางได้รับบาดเจ็บและถูกจับได้ทั้งคู่
สำหรับนายเอกพันธ์ นั้นเป็นผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาพร้อมของกลางยาบ้า 20 เม็ดและกำลังนำตัวไปฝากขังผลัดแรกโดยก่อนหน้านั้นช่วงกลางคืนมีญาติผู้ต้องหามาเยี่ยมจนดึกและก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปฝากขัง นายนพดล ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมขบวนการและถูกจับคดีครอบครองยาเสพติด 2 ครั้งอยู่ระหว่างประกันตัวมารอที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องไปศาลจึงขับรถตามแล้วก่อเหตุหลบหนีดังกล่าว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่ามีการวางแผนเอาไว้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวญาติและผู้ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีต่อไป
เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น