เมื่อเวลา 01.45 น.วันที่ 29 ธ.ค. ร.ต.ท.องอาจ ไชยสุริยงค์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนต้นไม้มีคนเสียชีวิตติดภายในหลายรายและบาดเจ็บ ที่ถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 2 ต.วังยาง ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทรัล แค็ปสีดำ ทะเบียน ผข 1315 นครปฐม ชนกับต้นไม้ข้างทางสภาพประตูด้านคนขับงอติดกับต้นไม้ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่จำนวน 5 ราย
เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องมือตัดถ่างใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาอย่างลำบากทราบชื่อคือนายประเสริฐ ฉัตรเงิน อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เสียชีวิตคาเบาะนั่งคนขับ น.ส.อรพรรณ วงษา อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 11 ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เสียชีวิตคาเบาะนั่งด้านหน้าซ้ายและมีผู้เสียชีวิตที่นั่งมาในแค็ปหลังอีก 3 ศพประกอบด้วย นายพิชาญ ฉัตรเงิน อายุ 20 ปีอยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง น.ส.สกุลรัตน์ ประจำตน อายุ 17 ปีชาว อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และนายจีรพันธ์ ขอพึ่ง อายุ 41 ปีไม่ทราบที่อยู่ ห่างกันประมาณ 20 เมตรพบร่างหมดสติของนายพรหมมา อ้อไสว อายุ 33 ปีได้รนับบาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ สีชมพู ทะเบียน ฉ 5715 อ่างทอง ซึ่งล้มอยู่สภาพพังยับเยินจึงรีบนำส่ง รพ.ศรีประจันต์ พบว่าซี่โครงซ้ายหัก 4 ซี่และสะบักซ้ายหัก
จากการสอบสวนนายพรหมมา ให้การเบื้องต้นว่านายประเสริฐ และ น.ส.อรพรรณ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันและเป็นผู้รับเหมามุงหลังคาแมสทัลชีส ก่อนเกิดเหตุนายประเสริฐ ได้ขับรถมาจาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อกลับบ้าน ที่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ช่วงเทศกาลปีใหม่ มี น.ส.อรพรรณ นั่งคู่เบาะหน้า นายพิชาญ ฉัตรเงิน น้องชายนายประเสริฐ และน.ส.สกุลรัตน์ ประจำตน อายุ 17 ปีแฟนสาวของนายพิชาญ และนายจีรพันธ์ นั่งมาในแค็ปหลัง ส่วนตนนั่งคอยดูรถจักรยานยนต์ที่บรรทุกอยู่ในกระบะท้าย โดยแต่แวะส่งเพื่อนที่ ต.มดแดง เขต อ.ศรีประจันต์
จากนั้นได้ขับรถมาตามถนนสายดังกล่าวถึงจุดเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ ขับแซงแล้วปาดหน้าระยะกระชั้น นายประเสริฐ จึงหักหลบทำให้รถที่ขับมาด้วยความเร็วเสียหลักชนต้นไม้ข้างทางเป็นเหตุมีคนที่นั่งมาในห้องโดยสารด้านหน้าเสียชีวิตส่วนตนนั่งกระบะท้ายถูกเหวี่ยงกระเด็นร่างกระแทกพื้นถนนโชคดีที่รอดชีวิตมาได้อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น