ศาลปกครองประกาศรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือก เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด
คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด (ครั้งที่ ๘) โดยกำหนดให้ขอรับใบสมัครและรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ ๙ – ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ในวันและเวลาราชการ
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เปิดเผยว่า คณะกรรมการตุลาการ ศาลปกครอง (ก.ศป.) ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการรับสมัครบุคคลผู้มีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติจัดตั้ง ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ เข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการ ศาลปกครองสูงสุด ตามมาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยในการคัดเลือกตุลาการ ศาลปกครองสูงสุดครั้งนี้ จะถือแนวทางการคัดเลือกโดยคำนึงถึงสัดส่วนตุลาการศาลปกครองสูงสุดซึ่งมาจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ และผู้ทรงคุณวุฒิในการบริหารราชการแผ่นดิน (บุคคลทั่วไป) ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนตุลาการในศาลปกครองสูงสุดทั้งหมด (อัตราว่างมีไม่น้อยกว่า ๘ อัตรา) และผู้ที่รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นไม่เกินสองในสามของจำนวนตุลาการ ในศาลปกครองสูงสุดทั้งหมด (อัตราว่างมีไม่เกิน ๑๑ อัตรา)
โดยผู้สมัครที่ใช้คุณสมบัติบุคคลทั่วไป จะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญคือ มีสัญชาติไทย และมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีนับถึงวันปิดรับสมัคร (๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) แต่ไม่เกินหกสิบห้าปี (ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งจะต้องมีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีในปีงบประมาณที่มีการแต่งตั้งด้วย) และเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไปในสาขานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ หรือเศรษฐศาสตร์ หรือเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไปในสาขาสังคมศาสตร์อื่น โดยได้รับปริญญาสังคมศาสตร์ อักษรศาสตร์ หรือศิลปศาสตร์ ที่เน้นการศึกษาเกี่ยวกับนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง หรือสังคมวิทยา จากสถานศึกษาในประเทศหรือต่างประเทศที่ ก.พ.รับรอง หรือเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ขึ้นไป และดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งบริหารที่ได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทบริหารตามกฎหมาย ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี (นับถึงวันปิดรับสมัคร) และต้องมีคุณสมบัติอื่นอย่างหนึ่ง อย่างใดดังต่อไปนี้
๑. เป็นหรือเคยเป็นกรรมการร่างกฎหมาย กรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์หรือกรรมการกฤษฎีกา
๒. รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาหรือเทียบเท่า หรือตุลาการ พระธรรมนูญศาลทหารสูงสุด
๓. รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอัยการพิเศษประจำเขตหรือเทียบเท่า
๔. รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือเทียบเท่า หรือตำแหน่งอื่นในหน่วยงานของรัฐที่เทียบเท่าตามที่ ก.ศป. ประกาศกำหนด ดังนี้
๔.๑ รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าขึ้นไปที่มียศไม่ต่ำกว่า พลตำรวจโท ในกรมตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
๔.๒ รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งเจ้ากรมหรือเทียบเท่าขึ้นไปที่มียศไม่ต่ำกว่าพลโท พลเรือโท พลอากาศโท ในกระทรวงกลาโหม
๕. เป็นหรือเคยเป็นผู้สอนวิชาในสาขานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือวิชาที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในสถาบันอุดมศึกษา และดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์หรือศาสตราจารย์พิเศษ
๖. เป็นหรือเคยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทนายความไม่น้อยกว่ายี่สิบปี (นับถึงวันปิดรับสมัคร) และมีประสบการณ์ในคดีปกครอง ตามประกาศ ก.ศป. เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับประสบการณ์ในคดีปกครองของผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ
สำหรับผู้สมัครที่ใช้คุณสมบัติตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น จะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญ ดังนี้ มีสัญชาติไทย และมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีนับถึงวันปิดรับสมัคร (๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) แต่ไม่เกินหกสิบห้าปี (ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งจะต้องมีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีในปีงบประมาณที่มีการแต่งตั้งด้วย) และ รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้น
ทั้งนี้ ภายหลังผู้สมัครได้ยื่นใบสมัครไว้โดยถูกต้องตามประกาศ ก.ศป. แล้ว จะมีกระบวนการคัดเลือก ตามลำดับ ดังนี้ การตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น การรับฟังความคิดเห็น (จะมีการเชิญชวนให้บุคคลในแวดวงกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดินให้ข้อคิดเห็นเพื่อนำไปใช้ประกอบการพิจารณาสัมภาษณ์และคัดเลือก) การประเมินประสบการณ์ในการทำงานหรือผลงานทางวิชาการ (ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกจะต้องส่งหลักฐาน ที่แสดงประสบการณ์ในการทำงานหรือผลงานทางวิชาการตามที่กำหนดไว้ในคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละประเภท (บุคคลทั่วไปและตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น) กรณีผ่านการประเมินแล้วจะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพทั้งทางกายและทางจิตใจ และเมื่อผ่านการตรวจสุขภาพแล้ว จะต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เพื่อประเมินความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสมที่จะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด
ผู้สนใจที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด สามารถรับใบสมัครได้ทางเว็บไซต์ http://www.admincourt.go.th โดยเลือกหัวข้อการรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด หรือขอรับใบสมัครได้ที่สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ ชั้น ๔ หรือห้องรับสมัครตุลาการศาลปกครองสูงสุด ชั้นที่ ๕ สำนักงานศาลปกครอง และยื่นใบสมัครด้วยตนเองหรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นยื่นแทนโดยผู้สมัครอาจใช้ตัวอย่าง ใบมอบฉันทะที่สำนักงานศาลปกครองจัดทำขึ้นก็ได้ ที่สำนักงานศาลปกครอง อาคารศาลปกครอง ห้องรับสมัครตุลาการศาลปกครองสูงสุด ชั้น ๕ เลขที่ ๑๒๐ หมู่ที่ ๓ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๑๐
โดยขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ ๙ – ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. เว้นวันหยุดราชการ อนึ่ง ในการสมัครเข้ารับการคัดเลือกฯ ผู้สมัครจะต้องใช้ใบสมัครตามแบบที่ ก.ศป. กำหนดท้ายประกาศ ก.ศป. เรื่องการรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด ลงวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘ เท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มบริหารงานบุคคลตุลาการศาลปกครอง สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ สำนักงานศาลปกครอง โทรศัพท์หมายเลข ๐ ๒๑๔๑ ๐๗๗๘ และ ๐ ๒๑๔๑ ๐๗๗๙ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๘๑๖ โทรศัพท์สายด่วน ๑๓๕๕ ในวันและเวลาราชการ หรือที่ www.admincourt.go.th
สำนักงานศาลปกครอง
กลุ่มสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์
อาคารศาลปกครอง เลขที่ ๑๒๐ หมู่ ๓ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐ โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๑๑๑๖๕, ๖๗ – ๖๘ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๘๐๖ www.admincourt.go.th
สายด่วนศาลปกครอง ๑๓๕๕ Facebook: สำนักประชาสัมพันธ์ ศาลปกครอง
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น