น้ำคือชีวิต ทั้งอุปโภค บริโภค ที่สำคัญ ยังหล่อเลี้ยงผืนแผ่นดิน และ นาข้าว ให้แก่เกษตรกร ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ได้มีอาชีพทำกินเลี้ยงตัว แม้ราคาข้าวจะตกต่ำ เพียงใด แต่ก็ยังพอมีข้าวไว้กิน พอมีพืชผักไว้กิน ไว้เก็บขาย หากขาดซึ่งน้ำทำนา ทำสวน ทำไร่ เมื่อทำไม่ได้ ก็เท่ากับ สูญสิ้น วิถีชีวิต ของชาวนา ซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ชาวสวน ชาวไร่ ก็ลำบาก แร้นแค้น
ผมขับรถยนต์ลัดเลาะไปตามหมู่บ้าน จากบ้านแหลม เข้าวัดดาว พื้นทีี่นี้ ข้าวกำลังขึ้นต้น เขียวไปทั้งทุ่ง พอเข้าเขต บ้านโพนไร่ โพธิ์ตะควน โพธิ์ศรี เสาธง จนถึงทุ่งบางปลาม้า ก็พบว่า ทุ่งนี้ ยังมีแต่พอซังข้าว ทีี่ผ่านการเก็บเกี่ยวไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำใหม่ สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้น ทราบว่า กรมชลประทาน กำลังดาดคอนกรีต ในคลองชลประทาน เขตพื้นที่ ตำบลรั้วใหญ่ ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ได้ใช้คลองยืม เป็นเส้นทางปล่อยน้ำมาให้แทน โดยใช้เครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง เป็นตัวเร่งผลัดดันน้ำเข้าสู่คลองชลประทาน เส้นดังกล่าว โดยคลองเส้นนี้ จะมาจากโพธิ์พระยา เข้าคลองวัดป่าฯ เข้าพื้นที่ รั้วใหญ่ ทับตีเหล็ก และ บางปลาม้า ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมาย ฯลฯ
ผมพบเรือท้องแบน พร้อมเจ้าหน้าที่ 3 คน กำลังเร่งกำจัดวัชพืช ที่กีดขวางทางน้ำไหลอย่าง ขะมั๊กเขม้น สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้น จึงทราบว่า เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางปลาม้า นายกไพบูลย์ ยิ้มประเสริฐ พร้อมด้วย รองนายก อนุสรณ์ กำลังเสือ และ อนุสรณ์ นิลวรรณ กำลังปฎิบัติภารกิจ เพื่อชาวบ้านอยู่ ก้ต้องขอบอกว่า เป็นคณะผู้บริหาร องค์กรปกครองท้องถิ่นที่ น่าชื่นชมจริงๆ ไม่เสียแรง ที่ได้ชื่อ เป็นนายกตลอดกาลของ อบต.แห่งนี้
ก็ฝากไปยัง พี่น้องเกษตรกร และ ชาวนา ในทุ่งบางปลาม้ากว่่า 5000 ไร่ ว่าน้ำกำลังมา โดยกรมชลประทาน กำลังเร่งผันน้ำด้วยเครื่องผันน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 4 เครื่อง และ มีทีมงาน คณะผู้บริหาร จาก องค์การบริหารส่วนตำบลบางปลาม้า นำโดยท่านนายกไพบูลย์ ยิ้มประเสริฐ พร้อมทีมงานรองนายกฯ กำลังเร่งกำจัดวัชพืช ทีี่กีดขวางทางน้ำไหล ต่อจากนี้ นำก็จะไหลเข้าทุ่งบางปลาม้า ให้ทำนากันได้ตามเดิม ซึ่งเหตุปัจจัยเบื้องต้น เกิดจากการจัดทำโครงการดาดคอนกรีต คลองชลประทาน พื้นที่ ตำบลรั้วใหญ่ น้ำจึงไม่สามารถผ่านมาได้ แต่เมื่อรับทราบว่า ชาวนาเกิดความเดือดร้อน ก็ปรับเปลี่ยนการผันน้ำมาให้ผ่านคลองยืมแทน เชื่อว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้
ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ในการร่วมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหาทุกข์ร้อนให้ชาวนา หากในสังคม ยังมีการบอกเล่า ความทุกข์ร้อน แก่กัน มีการร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อให้ปัญหาได้บรรเทาเบาบางลง เชื่อว่า สังคมไทยเรา ก็จะยังคงเป็นสังคมที่น่าอยู่ ตลอดไป ขอขอบคุณ กรมชลประทาน ขอบคุณ องค์การบริหารส่วนตำบลบางปลาม้า และ ผู้ใหญ่จำรัส พิมพ์มีลาย ที่แจ้งเรื่องเข้ามาให้ทางเราทราบ
คอลัมภ์ ทุกข์ชาวบ้าน วันนี้ อยากฝากเรื่องราวเป็นอุทาหรณ์ ว่า .. ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่หากเรา ได้ใส่ใจ ได้เสียสละ ร่วมไม้ ร่วมมือกัน ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ อาจสำเร็จลุล่วงไปได้ ก่อนที่จะเป็นปัญหา อย่างเช่น การร่วมมือกัน กำจัดวัชพืช ที่กีดขวางทางน้ำไหล การร่วมมือกัน ลอกคูคลองที่ตื้นเขิน หรือแม้แต่การนำเรื่องราว ปรึกษาผู้อื่น ที่อาจจะช่วยชี้แนะหนทางในการแก้ปัญหา ให้ลุล่วงไปได้ ก็เชื่อว่า ความสามัคคีปรองดอง ความเสียสละเพื่อส่วนรวม จะนำมาซึ่งความสุข ความสำเร็จ และ จะยังคงอยู่คู่กับสังคมไทยเรา ตลอดไป..
ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์ รายงาน
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น