วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สระบุรี พุทธศาสนิกชนนับหมื่นร่วมตักบาตรข้าวต้มหาง (ลูกโยน)



              เมื่อ(6ตุลาคม 60) เวลา 09.0 น. พุทธศาสนิกชนในจังหวัดสระบุรีและเดินทางมาจากต่างจังหวัดนับหมื่นคน เพื่อร่วมงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ “มหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยน” หรือข้าวต้มหาง วันออกพรรษา ณ วัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี  โดยนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และพระราชธีรภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีและเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ได้ร่วมกันนำพี่น้องประชาชนประกอบพิธีทำบุญน้อมถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็นพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมบนาถบพิตร ขณะที่ชาวบ้านอำเภอหนองแซง ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ชายและหญิง รวมกว่า 500 คนได้รำถวายพุทธบูชาและถวายอาลัย ด้วยเช่นกัน

      



 



            โดยมีการจัดขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยน ขบวนรำพุทธบูชา ขบวนประเพณีวัฒนธรรมพื้นถิ่น เช่น ขบวนชุมชนไท-ยวน ชุมชนชาวไทยลาวเวียง  และไทยพวน การแสดงประวัติและการแสดงเหตุการณ์จำลององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมาชั้นดาวดึงส์  จากนั้นเป็นพิธีตักบาตรข้าวต้มหางหรือข้าวต้มลูกโยน

           





             ข้าวต้มที่จะนำมาใส่บาตรพระสงฆ์ เรียกว่า ข้าวต้มลูกโยนหรือข้าวต้มหาง ที่วัดพระพุทธฉายแห่งนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนได้สืบสานทำมานานมากแล้ว แต่ปัจจุบันได้มีนักเรียนเยาวชนได้สนใจมาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติหัดทำข้าวต้มลูกโยนกันเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันได้มีการทำประยุกต์เพื่อให้มีกลิ่นหอมและมีรสชาติอร่อย เช่นใส่ไส้กล้วย เผือก และมีส่วนผสมของถั่วเหลืองหรือถั่วดำในข้าวเหนียว เป็นต้น  และเมื่อนึ่งไส้ภายในสุกแล้วก็นำมาห่อขึ้นรูปคล้ายข้าวต้มมัด ด้วยการใบเตยพันเป็นกรวยม้วนพันไปเรื่อยจนห่อหุ้มข้าวเหนียวทั้งชิ้นโดยทิ้งชายเป็นหางไว้   จากนั้นจะมัดด้วยไม้ตอกก่อนนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 7 ถึง 10 นาที   ข้าวต้มลูกโยนสามารถใช้ใบไม้ได้หลายชนิด เช่นใบตอง ใบกระพ้อ ใบมะพร้าว และใบเตย  เป็นต้น
            









            ตักบาตรเทโวโรหณะหรือตักบาตรออกพรรษา กล่าวไว้เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระชนมายุอยู่นั้น ทรงเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และกลับมา ยังมนุษย์โลกที่เมืองสังกัสคีรี ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันเปิดโลก ทำให้โลกมนุษย์ สวรรค์และนรกต่างเห็นกันและกัน  และพุทธศาสนิกชนต่างมารอเฝ้ารับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันนั้นจำนวนมา และต่างปรารถนาใส่บาตรพระพุทธองค์ โดยประชาชนที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถจะใส่บาตรได้ถึง จึงใช้วิธีการโยนอาหารของตนลงในบาตรของพระพุทธเจ้าและพระสาวก โดยอาหารเหล่านั้นตกลงในบาตรเป็นที่อัศจรรย์




 


(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)   บรรณาธิการข่าว        
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น