วันที่ 23 เมษายน ณ. วัดสูง อ. เสาไห้ จ.สระบุรี ก็ คราคล่ำไปด้วยพี่น้องประชาชนที่ต่างพร้อมใจกันมาร่วมงานกันอย่างมากมาก รวมนักท่องเที่ยวที่ไปร่วมพิธีตลอดทั้งวัน ที่วัดสูงใน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เป็นเป็นสถานที่ประดิษฐานสำคัญคือเสาแม่ย่าตะเคียน และพระศรีพุทธมงคลมุณี หรือหลวงพ่อองค์ดำ ที่ชาวอำเภอเสาไห้ให้ความเคารพศรัทธา ปีนี้บรรยากาศในกลางวันจะร้อนอบอ้าวบ้างแต่ก็ไม่มากเหมือนทุกปี เนื่องจากอยู่ในช่วงเกิดฝนตกพรำมาตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา จึงทำให้บรรยากาศในพิธีสรงน้ำพระและอาบน้ำหรือรดน้ำแม่ย่าตะเคียนของชาววัดสูง อ.เสาไห้ ซึ่ง 1 ปี มีเพียงครั้งเดียวซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 60 ที่นำแม่ตะเคียนหรือเสาร้องไห้ขึ้นมาจากแม่น้ำ นอกจาก มีความสนุกสนานจากการแสดงวัฒนธรรมของพื้นบ้านไทยวนทำให้ภาพประทับใจนี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านความรู้สึกและอารมณ์ของที่อยู่ในงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งพิธีเปิดงาน โดยมี นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เดินทางไปเป็นประธานในพีธีเปิดงานสรงน้ำพระและรดน้ำหรืออาบน้ำแม่ย่าตะเคียน มี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม นายอำเภอเสาไห้ ให้การต้อนรับ
งานสรงน้ำพระวัดสูง ในเทศกาลสงกรานต์ ดูเหมือนจะเป็นการจัดงานประเพณีสงกรานต์ที่ผู้คนได้กล่าวขานถึงมาตลอดเวลา ใน เดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป แม้ในสมัยก่อนจะเป็นเพียงงานชุมชนเล็ก ๆ ในเขตอำเภอเสาไห้ แต่ต่อมาได้มีการส่งเสริมสนับสนุนจากจังหวัด หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จนทำให้งานสรงน้ำพระวัดสูงที่เสาไห้แห่งนี้ดูจะกลายเป็นงานที่น่าสนใจและผู้คนอยากไปร่วมงานทุกปี พิธีกรรมและประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาและเป็นประจำเมื่อถึงวันสรงน้ำพระวัดสูง ก็คือผู้ที่ไปร่วมงานจะได้มีโอกาสสรงน้ำหรืออาบน้ำหุ่นรูปปั่นแม่ย่าตะเคียน เสาตะเคียน และกราบสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบริเวณวัดสูงแห่งนี้ เช่น พระศรีพุทธมงคลมุณี หรือหลวงพ่อองค์ดำ ที่ชาวอำเภอเสาไห้ให้ความเคารพศรัทธา
ตำนานเสาร้องไห้ เป็นตำนานของเจ้าแม่ตะเคียนทองที่ตั้งอยู่ในศาลนางตะเคียนทอง ณ วัดสูง ตำบลเสาไห้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเสาไห้ประมาณ 500 เมตร เป็นเสาไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ ตำนานเล่ากันว่า เมื่อครั้งสร้างกรุงเทพฯ เป็นราชธานี ได้มีการประกาศเกณฑ์เสาไม้จากหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อที่จะคัดเลือกเสาที่มีลักษณะงดงามนำมาเป็นเสาเอก ซึ่งทางเมืองสระบุรีได้จัดส่งเสาตะเคียนที่มีลักษณะงดงาม ล่องลงมาตามลำน้ำป่าสักและเมื่อเสาตะเคียนดังกล่าวล่องมาถึงกรุงเทพฯ แต่ก็ช้าไปได้มีการคัดเลือกเสาเอกไปก่อนแล้ว เสาต้นนี้จึงเกิดความเสียใจลอยทวนน้ำกลับขึ้นมาจมลง ณ ตำบลแห่งนี้อยู่ประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา และเกิดเป็นตำนานเรื่องเล่าขาน รวมไปถึงประวัติ ความเป็นมา จนเป็นชื่ออำเภอเสาไห้ ของจังหวัดสระบุรีในปัจจุบัน
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว) บรรณาธิการข่าว
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น