สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เดินหน้าพัฒนาประเทศอย่างองค์รวม ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาในพื้นที่ของประเทศ ภายใต้กิจกรรม "CEO FORUM : สานพลังวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาพื้นที่”
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง เป็นประธานเปิดกิจกรรมดังกล่าว ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมาว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยการพัฒนาฐานรากของประเทศไทย โดยอาศัยงานวิจัยและนวัตกรรม โดยเฉพาะ การดูแลชุมชนในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านสุขภาพ อาชีพและคุณภาพชีวิต ซึ่งกลไกสำคัญ จะต้องอาศัยบุคลากรและหน่วยงานในพื้นที่ และนำทรัพยากรเข้าไปพัฒนา นั่นก็คือ งานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งกิจกรรม "CEO FORUM : สานพลังวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาพื้นที่” มุ่งหวังให้บุคลากร หน่วยงานที่มีในพื้นที่ ทั้งมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา ซึ่งทำหน้าที่ดูแลตามภารกิจอยู่แล้ว ให้เพิ่มเติมการดูแลปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำองค์ความรู้งานวิจัย และนวัตกรรม ไปช่วยพัฒนาและแก้ไขให้ตรงความต้องการ เกิดเป็นผลผลิตและเกิดคุณค่าเพิ่มขึ้น โดยหน่วยงานส่วนกลางไม่ว่าด้านการศึกษา ด้านการวิจัย ด้านการขับเคลื่อน ก็จะสนับสนุนนโยบายและทรัพยากร รวมถึงงบประมาณที่เป็นงานตามภารกิจปกติไปช่วยเสริม ก็จะเกิดการประสาน เชื่อมโยง และเป็นกลไก ในการแก้ปัญหาในพื้นที่นั้นๆ
พลอากาศเอกประจินฯ มั่นใจว่า เมื่อชุมชนในพื้นที่ได้รับการดูแลแก้ไข สิ่งที่ตามมาคือเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ มีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน ไฟฟ้า ประปา ตลอดจนเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร จะสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งกลไกต่าง ๆ เหล่านี้ คนในพื้นที่ต้องบูรณาการและขับเคลื่อน เพื่อให้ชาวบ้านได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีเครือข่าย สกอ.9 แห่งทั่วประเทศ คอยดูแล ดังนั้น ครูอาจารย์ของสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งทราบปัญหาของชาวบ้านจะเป็นผู้ประสานและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น มหาดไทย เกษตร สาธารณสุข วช. สกว.มาร่วมกันนำปัญหานั้นไปสู่การแก้ไขต่อไป
ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า เพื่อให้การพัฒนาเชิงพื้นที่สามารถนำศักยภาพของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดมาสนับสนุนการดำเนินการได้อย่างเต็มที่ วช.ในฐานะสำนักงานเลขานุการร่วมของสภานโยบายและนวัตกรรมแห่งชาติ จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อร่วมเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ โดยส่งเสริมให้มีการนำผลงานวิจัย และนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมของประเทศ และต่อยอดขยายผลองค์ความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การพัฒนาพื้นที่ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาความต้องการของพื้นที่ได้อย่างแท้จริง
จำนงค์ ศรัณยพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น