วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วันที่ " นักข่าวท้องถิ่น " โดนจับฝังเข็ม

วันนี้ 9 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.30 น. ผมพา " น้าปั๊ก " นพพร น้อยวิจิตร เจ้าของร้านพิซซ่าไทย สาขา สุพรรณภูมิ ไปพบ คุณหมอ สุกิจ นราธนากร แผนกแพทย์จีน โรงพยาบาลศุภมิตร จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นการรักษาอาการปวดหลังเรื้อรังเป็นครั้งที่ 2 หลังจากไปพบแพทย์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา วันนี้ หลังการตรวจเบื้องต้นแล้ว คุณหมอก็ไถ่ถามอาการ คนไข้ถึงผลการรักษา ที่ผ่านมา พบว่า อาการปวดบริเวณไหล่ทั้งสองข้าง และ แผ่นหลัง คลายตัวลง นอนหลับดี คุณหมอบอก ถือว่าดีมาก เพราะในรายทั่วไปจะต้องใช้เวลารักษา 3-4 ครั้ง จึงจะเห็นผล ในรายของ " น้าปั๊ก " ถือว่าดีมาก จากนั้นคุณหมอ ก็ได้ดำเนินการ " ฝังเข็มบำบัด " ในครั้งที่ 2 ให้ โดยมีผมเฝ้าดู อย่างใกล้ชิด อยู่ด้วย
จากนั้น คุณหมอได้ชวนผมกลับมานั่งที่ ห้องตรวจคนไข้ ผมถามคุณหมอว่า " การปล่อยเลือด ออกจากร่างกาย ตามตำรับแผนจีนโบราณ " เป็นมาอย่างไร คุณหมอจึงเล่าให้ฟังว่า เป็นวิธีการรักษาอาการป่วยอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เป็นตำรับจีนโบราณ ขนานแท้ ที่ได้ผลมากๆ เหมือนกับการที่เราปล่อยของเสียออกจากร่างกาย เหมือนน้ำที่ถูกกักอยู่ในแอ่งน้ำ หมักหมมจนเกิดการเน่าเสีย พอถูกเจาะช่องให้ไหลออกมาได้ น้ำใหม่ก็จะไหลเข้ามาแทนที่ น้ำก็จะสะอาด กลายเป็นน้ำใหม่ ร่างกายก็เช่นเดียวกัน ในรายที่พบมากจะเป็นอาการปวดเข่า ปวดตามข้อ มีเส้นเลือดขอด พอได้ทำการรักษา โดยวิธีการปล่อยเลือดออก เลือดใหม่ก็จะไหลเข้ามาแทนที่ กลายเป็นเลือดดี อาการที่เป็นอยู่ก็จะทุเลาลงและหายเป็นปกติ ในที่สุด ซึ่งมักจะกระทำควบคู่ไปกับการฝังเข็ม และครอบกระปุก ไปพร้อมๆกัน
คุณหมอเล่าว่า เคยเจอเคสลักษณะนี้ เมื่อครั้งไปออกค่ายอาสาฯ ที่กาญจนบุรี มีแม่ชีอยู่รายหนึ่ง ปวดเข่าเรื้อรัง และมีเส้นเลือดขอด ร่วมด้วย ต้องทานยามาเป็นสิบปี พอได้มีการบำบัด โดยวิธี การปล่อยเลือดออกจากร่างกาย ก็หายเป็นปกติ ในระยะเวลาไม่นานนัก และก็ได้พบมากที่ คลินิค ที่ทำอยู่แถวเยาวราช กรุงเทพฯ ซึ่ง ใช้เวลาวันหยุด เสาร์ - อาทิตย์ เปิดทำการรักษาอยู่ด้วยอีกที่หนึ่ง ที่กรุงเทพฯ จะเจอเคสลักษณะนี้เยอะ ปวดเข่า เส้นเลือดขอด ต้องกินยาแก้ปวด กันมายาวนาน ในแต่ละราย ซึ่งจะเป็นอันตรายมาก ต่อร่างกาย
ผมถามคุณหมอว่า การปล่อยเลือดออกจากร่างกาย มีสถานพยาบาลทำการรักษามากไหม คุณหมอบอกหายากมาก สมัยก่อนมีอยู่ที่จังหวัดทางภาคเหนือ เพียงไม่กี่แห่ง คนก็แห่กันไปรักษา คิวยาวเหยียด เพราะอาการนี้ พบมากในผู้สูงอายุ คนน้ำหนักมาก ผู้ใช้แรงงานที่ต้องใช้กำลังมาก ต้องยืนนานๆ จึงมีผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งการบำบัด ด้วยการแพทย์แผนจีนโบราณ ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และ ค่าใช้จ่ายไม่แพง
คุณหมอถามผมว่า คุณเรวัติ มีโรคประจำตัวบ้างไหม ผมบอก .. ปกติ ผมแข็งแรงดี แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา หมอตรวจพบว่า มีความดันสูง ครอเลสเตอรอล ในเลือดสูง การไหลเวียนของเลือดจึงไม่ดี มีอาการชา ตามแขนขา ต้องทานยา ควบคุมอาการมาระยะหนึ่งแล้ว โดยแพทย์แนะนำให้ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร บางประเภท หลังจากได้ฟัง คุณหมอสุกิจ บอก .. ขอผมตรวจหน่อยได้ไหม ว่าแล้วก็ทำการแมะ หรือ การตรวจชีพจรในแบบจีนโบราณ หลังตรวจอาการ คุณหมอถามว่า ระบบขับถ่าย เป็นอย่างไร ผมบอกว่าดี คุณหมอซักต่อว่า สายตาเป็นอย่างไร มีอาการพร่ามัวบ้างไหม ผมตอบตามตรง บ่อยครับ คุณหมอละมือจากชีพจรผม บอก .. ขอผมได้รักษาอาการป่วย ของคุณเรวัติ ได้ไหมครับ ผมเชื่อว่า ใช้การฝังเข็มเพียงไม่นาน คุณก็จะไม่ต้องทานยาคุมความดันสูง ยาลดเคอเรสเตอรอล สายตาจะได้แจ่มใสสว่างเหมือนเดิม ..
และนี่ ก็คือที่มาของเรื่อง " วันที่นักข่าวท้องถิ่น " ต้องโดนคุณหมอจับฝังเข็ม คุณหมอบรรจงแทงเข็มตามจุดต่างๆในร่างกายผม ทีแรกก็นึกเสียวๆอยู่เหมือนกันว่า คงจะเจ็บปวดเหมือนตอนโดนฉีดยาเป็นแน่ เริ่มตั้งแต่มือ เท้า จนถึงบริเวณใบหน้า กว่า 10 เข็ม แต่กลับกลายเป็นว่า .. ไม่เจ็บอย่างที่คิด คุณหมอมือเบามาก และเข็มก็เล็กมาก จากนั้น คุณหมอก็บอก ทำตัวตามสบายนะครับ ผมหลับตาลง ความรู้สึกในตอนนั้น เหมือนตัวเองหนักอึ้ง พยายามแยกความรู้สึก ส่งไปถึงเข็มเล่มต่างๆที่ปักอยู่ในร่างกาย ว่าเล่มไหนหนัก เล่มไหนเบา ดูเหมือนว่า เล่มที่อยู่ทางด้านล่าง ของร่างกาย จะหนักกว่า เล่มที่อยู่ส่วนบนและบริเวณใบหน้า เวลาผ่านไปประมาณหลายชั่วอึดใจ คุณหมอก็เปิดไปเพดาน ผมรู้สึกถึงแสงสว่างที่สว่างขึ้น จึงลืมตา จากนั้น คุณหมอก็นำเข็มออกจากร่างกายทีละเล่มจนหมด ให้ผมนอนคว่ำ รู้สึกได้ว่ามีน้ำมันมาชะโลมบนแผ่นหลัง นี่คงจะเป็นการครอบกระปุก บำบัด อย่างที่เคยเห็นมา คุณหมอสุกิจ บอก .. บริเวณแผ่นหลังจะเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทต่างๆ หากได้มีการครอบกระปุกบำบัด ร่วมด้วย ก็จะทำให้ร่างกายดีขึ้นเร็ว ความรู้สึกตอนแรกๆ ผมรู้สึกเจ็บแผ่นหลังมาก ตอนที่คุณหมอลากกระปุกไปมา แต่จะบอกว่าเจ็บ ก็ให้รู้สึกอาย .. จึงนิ่งเสีย ทนเอาจนเสร็จกระบวนการบำบัด ..
ขั้นตอนสุดท้าย คุณหมอ ได้ใช้ " แม่เหล็กติดหูบำบัด " เป็นขั้นตอนสุดท้าย ให้กับผม คุณหมอโชว์แม่เหล็กให้ผมดู แล้วบอกว่า .. เห็นเล็กๆแค่นี้ แต่ประสิทธิภาพ เหลือหลาย คุณหมอบอก .. ที่หูจะเป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาท ที่สำคัญ การติดแม่เหล็กบริเวณหูจะช่วยดูดซับ ทำให้ระบบของร่างกายดีขึ้น .. ก่อนลาจากกันในวันนี้ คุณหมอบอก วันพุธหน้า ผมจะปรุงยาตามแบบจึนโบราณ ซึ่งตัวยาไปได้มาจาก ธิเบต ให้ " น้าปั๊ก " ทาน จะช่วยให้การรักษาอาการปวดหลังเรื้อรัง นอนไม่หลับ ประจำเดือนมาไม่ตามปกติ ดีขึ้นเร็ว .. วันนี้ผมดูสีหน้า ของ " น้าปั๊ก " ภรรยาสุดที่รัก ว่าเธอดูผ่อนคลาย จากการได้มาทำการรักษา เป็นครั้งที่สอง สำหรับตัวผมเอง ก็รู้สึกมีความหวังว่า .. ถ้าการรักษาตัวในครั้งนี้ เป็นผลสำเร็จ ไม่ต้องทานยาประจำอีก ชีวิตก็คงมีความสุข .. ไม่น้อย
เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น