วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

๑ ปี พิซซ่าไทยสุพรรณ กับ “ น้าปั๊ก “ นพพร น้อยวิจิตร

1 ปี พิซซ่าไทยสุพรรณ  กับ ความสำเร็จของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ชื่อ “ น้าปั๊ก “ นพพร น้อยวิจิตร
   

            นพพร น้อยวิจิตร หรือ น้าปั๊ก   เกิดเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม  ๒๕๐๗  ที่บ้านฝั่งเหนือ หมู่ที่ ๒ ตำบลบ้านแหลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี  หลังเรียนจบในระดับการศึกษาภาคบังคับ  ที่ โรงเรียนวัดป่าพฤกษ์ บ้านเกิด เธอก็เลือกที่จะไปเรียนต่อในสายอาชีพ  ที่ โรงเรียนสอนตัดเสื้อระพี  หลังเรียนจบ ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  เธอได้รับการทาบทามจาก ป้ายง  ให้เข้าทำงานที่ ร้านระพี  ในตำแหน่ง ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า  ๔ ปีต่อมา  เธอได้กลับบ้านเพื่อสมรส กับ ครูหนุ่ม ที่ชื่อ เรวัติ น้อยวิจิตร  พร้อมกับวิถีชีวิต ที่หักเห  ตามสามี เข้าสู่ ธุรกิจ ด้านประกันชีวิต  ประกันวินาศภัย และ งานด้านสื่อสารมวลชน ตามที่ครอบครัวพาไป  เธอมีชีวิตที่ต่างไปจาก ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า แต่ก่อน  เธอได้เดินทางติดตามสามี ไปท่องเที่ยว ต่างประเทศ นับสิบครั้ง


             เมื่อปี ๒๕๕๖  ที่ผ่านมา เธอบอก .. อยากค้าขาย  และ ก็เป็นที่มาของ การกำเนิด ธุรกิจ  ร้านพิซซ่าไทย ในจังหวัดสุพรรณบุรี  โดย ได้ไปเริ่มต้น ค้าขาย ชานมไข่มุกไต้หวัน  เปิดร้านที่อำเภอ เสนา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา  ๕ เดือน ต่อมา  เธอได้พบ  ธุรกิจ ร้านพิซซ่า ใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  บูม มากมาก  มีสามสี่เจ้า ขายดีทุกเจ้า ขายดีกว่าร้านชานมของเราเสียอีก  จึงเป็นที่มาของการ “ เซ้งกิจการ ร้านชานม “ และ มาซื้อแบรนด์  ร้านพิซซ่าไทย จาก กรุงเทพฯ เพื่อมาทำเป็น ธุรกิจครอบครัว ที่จังหวัดสุพรรณบุรี  บ้านเกิด

            ๗  กรกฎาคม  ๒๕๕๖  ได้ฤกษ์ดี ทำพิธีเปิดร้าน พิซซ่าไทย สาขา บางปลาม้า  เป็นสาขาแห่งแรก ในจังหวัดสุพรรณบุรี  ขายดิบ ขายดี จน แม่ค้าไม่ได้กินข้าว กินปลา กันเป็นวันๆ นึกถึงแล้วก็อดที่จะขำกันไม่ได้ ทุกครั้งที่เล่าเรื่อง ร้านพิซซ่าไทย ที่บางปลาม้า  พอยกประตูเปิดร้าน  เด็กๆก็ลอดเข้ามาจองคิวกันเลย  เวลาจะปิด ก็ต้องรีบปิด เห็นลูกค้าขาดช่วงต้องรีบปิดประตูร้าน  แต่ก็ยังไม่วายที่ลูกค้าเด็กๆ จะรอดเข้ามาขอซื้ออีก จนได้

            กว่า ๕ เดือน ที่  ร้านพิซซ่าไทย สาขาบางปลาม้า โดย “ น้าปั๊ก “ ของเด็กๆ สามารถสร้างยอดขาย  และ ชื่อเสียง โด่งดัง ข้ามจังหวัด ฯ  คุณ ลัดดา สุวรรณชาต  เจ้าของแบรนด์ดัง พิซซ่าไทย บุกมาถึงบางปลาม้า  พร้อมเซ็นต์สัญญา มอบ ลิขสิทธิ์  พิซซ่าไทย จังหวัดสุพรรณบุรี  ให้เป็นรางวัล 
 

            เริ่มวางระบบ ขยายเครือข่าย การจำหน่ายแฟรนไชน์  และ แป้งพิซซ่าไทย ไปทั่วพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี  โดย ตั้งเป้าไว้ที่ ๑ ปี  ๒๐ สาขา ทั่วจังหวัดสุพรรณบุรี  และ วันนี้  ๗  กรกฎาคม ๒๕๕๗  ครบรอบ ๑ ปี ร้านพิซซ่าไทย จังหวัดสุพรรณบุรี  “ น้าปั๊ก “ นพพร น้อยวิจิตร  สามารถ เปิดร้าน พิซซ่าไทย เป็นของตนเอง ได้ถึง ๔ แห่ง  ได้แก่ สาขา บางปลาม้า ( แห่งแรก )  สาขา สุพรรณภูมิ ( จำหน่ายแฟรนไชน์ และ แป้งพิซซ่าไทย )  สาขา ห้างโรบินสันสุพรรณบุรี  และ สาขาที่ ๔   สาขาวัดป่าเลไลยก์   ( ฝั่งตรงข้ามวัดป่าเลไลยก์ ) ซึ่งเปิดเมื่อวันพุธที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗  ที่ผ่านมา

               “ น้าปั๊ก “ เปิดใจ .. ทำไปก่ยังไหวอยู่  เพราะลูกกำลังเรียน  กำลังใช้เงิน  ต้องเตรียมไว้ให้พวกเขา  ลูกชายคนโต  ลูกปอ เป็นทหารอยู่เมืองกาญจน์  อีก ๔ เดือนก็ปลดประจำการแล้ว  ถ้าจะเข้าเรียนต่อในโรงเรียนนายสิบ ก็ไม่ว่า ได้รับราชการ  แต่ถ้าไม่เอา  ก็มาช่วยกันค้าขาย  ช่วยกันดูแลกิจการ ให้เติบโต  ต่อยอด เพิ่มมากยิ่งขึ้น  ลูกสาวคนรอง ลูกแมว  เรียนอยู่ปี ๓  มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คณะวิศวกรรมศาสตร์  เขาอยากเป็นวิศวกร  ก็ตามใจเขา เชื่อว่าเขาทำได้ และ ทำได้ดี เพราะเขาเป็นคนเก่ง  ขยัน  ปิดเทอมก็ทำงานรับจ้าง ที่ทางสถาบันบ้าง อาจารย์บ้าง  กับเพื่อนๆเขาสิบกว่าคน หางานทำกัน  ไม่เคยหยุด เราเห็นแล้วก็ดีใจ  ต่อไปจะได้ไม่ลำบาก  เพราะมีต้นทุนมาเยอะ  รับจ้างนับรถตามถนน ก็ยังทำได้  เด็กๆเดี๋ยวนี้ เขาขยัน  ส่วนลูกโจ้  ลูกชายคนเล็ก  จบมอหก สอบเรียนต่อ ได้ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  พ่อเขาเพิ่งจะมาไปมอบตัวเมื่อสองวันก่อน  เขาอยากเป็น นักสังคมสงเคราะห์  คนนี้ ใจบุญ  ไม่ฆ่าสัตว์  ชอบช่วยเหลือคน  เรียนเก่ง  ทำงานก็เก่ง  ขายพิซซ่า ก็เก่ง  เรียน ๔ ปี  ต้องใช้เงินอีกเยอะ  เราในฐานะ พ่อ แม่  ก็ต้องยอมลำบากเอาหน่อย ..

             ความสำเร็จของร้านพิซซ่าไทย ในจังหวัดสุพรรณบุรี เคล็ดลับง่ายๆ  อยู่ที่ของเขาดี  สด สะอาด อร่อย  คุณลัดดา  สุวรรณชาต  เจ้าของแบรนด์  ส่งแป้งให้เรา วันเว้นวัน  ทำใหม่ทุกวันๆละกว่า ห้าพันชิ้น เป็นของเรา ไม่ถึงพันชิ้น ที่เหลือกระจายส่งทั่วประเทศไทย และ ต่างประเทศ  ต้องเลือกทำเลที่ดี  เราจะขายแฟรนไชน์  ลงตามตลาดอำเภอก่อนจนครบ ทั้ง ๑๐ อำเภอ  สำหรับตลาดรอง  ตามตำบลต่างๆ  ก็เลือกมองดูว่า  ตลาดใด ที่มีศักยภาพสูง  มีองค์ประกอบที่ดีพอ จึงขายแฟรนไชน์ลงไป อย่างที่ตลาดสวนแตง  ตลาดท่าเสด็จ  ก็เป็นตลาดที่ดี  มีศักยภาพสูง  พอเปิดก็สามารถสร้างลูกค้าได้มากมาย

            วันนี้เราดีใจ  ที่ธุรกิจเล็กๆ ลงทุนหลักหมื่น สามารถทำได้ด้วยตัวเอง  และเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงลูก  เลี้ยงครอบครัวได้ สำหรับลูกๆ เราไปพบเจอ ธุรกิจอะไร เวลาต้องไปเรียน ก็จะให้พวกเขาไปเรียนด้วย จะได้ช่วยกันได้ ก็เป็นอีก มุมมองหนึ่ง ของการถ่ายทอด ประสบการณ์  ทางธุรกิจ  จาก แม่ สู่ลูก  ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้พยายาม และมุ่งมั่น ที่จะทำให้ดีที่สุด และ วันนี้ เธอก็สามารถ ทำได้ อย่างที่เธอ ตั้งใจไว้ .. 





 



        เรวัติ  น้อยวิจิตร  เรียบเรียง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น