วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สุพรรณบุรี พิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร รุ่น 9 รวย



              ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พระเทพสุวรรณโมลี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานจุดเทียนชัย โดยมีนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายพิภพ บุญธรรม ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี นายประยุทธ โอสธีรกุล วัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ทันตแพทย์อนุศักดิ์ คงมาลัย ประธานมูลนิธิศุภมิตรร่วมใจและพุทธศานิกชน ร่วมพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อโตรุ่น 9 รวย ฉลองครบรอบ 1188 ปี การก่อตั้งวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ณ วิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี



             โดยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการจัดสร้างวัตถุมงคลดังกล่าว นอกจากเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา ยังเป็นการนำรายได้ไปบูรณะพระอารามและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเฉพาะการสร้างพระแกะสลักหน้าผาใหญ่ที่สุดในโลก พระปุษยคีรีศรี สุวรรณภูมิ ณ.พุธมหาสถาน อ. อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี


                            


              สำหรับพิธีดังกล่าว มีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 16 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร พิธีสวดคาถาพุทธาภิเษก โดยคณาจารย์สายวัดสุวรรณภูมิ 4 รูป เกจิคณาจารย์ 16 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต  หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน หลวงพ่อทองสุข วัดอู่ยา หลวงพ่อนาม วัดน้อยชมพู่  ร่วมพิธีนั่งปรกอธิฐานจิต ต่อจากนั้นพระราชปริยัติเมธี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ดับเทียนชัย 



               พุทธศาสนิกชนผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อำเภอเมืองสุพรรณบุรี โทร. 092-590-9595  และ  081-758-3930 


            สำหรับวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ของ จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดป่า ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตปางป่าเลไลยก์ หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ระดับวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่หน้าบันวิหารวัดป่าเลไลยก์ มีเครื่องหมายพระมหามงกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จธุดงค์มาพบสมัยยังผนวชอยู่ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงมาปฏิสังขรณ์ และกล่าวกันเสมอมาว่า ถ้ามาเมืองสุพรรณ แล้วไม่ได้แวะมากราบไหว้หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองสุพรรณ ด้วยที่วัดป่าเลไลยก์เป็นวัดสำคัญ คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นสถานที่หนึ่งในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ในช่วงวันหยุดจะมีผู้คนมากมายมากราบไหว้ขอพร และยิ่งเป็นวันหยุดยาว นักท่องเที่ยวนิยมมากเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดสุพรรณบุรี


                   พระครูโสภณวีรานุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร กล่าวว่า วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระอารามหลวง ที่สร้างมา 1,188 ปี ตามฉบับพระอารามหลวงฉบับกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มีโบราณสถานซึ่งเป็นประธานของวัดคือพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สูง 23.47 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 7 ชั้น ตามสัณนิฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่าพระพุทธรูปป่าเลไลยก์เป็นของเก่าก่อนวัตถุอื่น ลักษณะทันสมัยอู่ทอง 


                 ตามประวัติการบูรณะวัดป่าเลไลยก์ มีการบูรณะครั้งสำคัญ 4 ครั้ง คือครั้งแรกในปีพุทธศักราช 1706 พระเจ้ากาแตเชื้อสายนเรศวรหงษาวดีพาไพร่พลมาครองราชย์ที่เมืองพันธุมบุรี ได้โปรดให้พระเจ้ามอญน้อย เป็นเชื้อพระวงศ์ของพระองค์ไปสร้างวัดสนามชัย แล้วมาบูรณะพระป่าเลไลยก์ในวัดลานมะขวิด เมื่อข้าราชบริพารบูรณะวัดแล้วพากันออกบวช 2,000 คน จึงขนานนามเมืองใหม่ว่า สองพันบุรี 



                ครั้งที่ 2 ในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โปรดให้พระยาสีหราชเตโชไชย ไปสร้างวิหารวัดป่าเลไลยก์ ครั้งที่ 3 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 4 โปรดให้พระยานิการบดินทร์มาบูรณะปฎิสังขรณ์ และครั้งที่ 4 ในปีรัชมังคลาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ มากกว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะพระอารามหลวงสำคัญ รวมทั้งวิหารหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์



                                  






















               เรวัติ  น้อยวิิจิตร  สุพรรณบุรีนิวส์  rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น