ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ดารานักแสดงชื่อดัง จา พนม หรือ โทนี่ จา พร้อมครอบครัวและบุตรสาวคนเล็ก น้องมินิ ได้มากราบไหว้ขอพร หลวงพ่อโต เพื่อความสิริมงคลแก่ครอบครัว ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวขอถ่ายรูปใว้เป็นที่ระลึกจนวัดแทบแตก
โดยจา พนม ได้เปิดเผยว่า ภรรยาตน ปิยรัตน์ โชติวัฒนานนท์ (บุ้งกี๋)เพิ่งคลอดบุตรสาวคนที่2 น้องมินิ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและต้องเข้ารับฉีดวัคซีนตามกำหนดแต่ที่กรุงเทพฯไม่สามารถหาวัคซีนได้จึงได้โทรติดต่อญาติที่จังหวัดสุพรรณบุรีให้ช่วยสอบถามตามโรงพยาบาลต่างๆว่ามีวัคซีนดังกล่าวหรือไม่ จนพบที่สุพรรณบุรี ประกอบกับก่อนหน้านั้น 1 คืนตนได้ฝันเห็นชายแก่มาหาแล้วบอกตนเองว่าชื่อ เสือใบ พอรุ่งเช้าตนจึงไปหาข้อมูลในอินเตอร์เนตค้นหาชื่อเสือใบ จึงทราบว่า เสือใบ อยู่ที่สุพรรณบุรี จึงได้พาครอบครัวมาที่สุพรรณบุรีพาน้องมินิมาฉีดวัคซีนและถือโอกาสมาขอพรหลวงพ่อโต บูชาขุนแผนผงเสือใบพร้อมสอบถามเรื่องราวความเป็นมาของ เสือใบและได้ทำบุญสร้างเมรุ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เพราะตนเกิดศรัทธาขุนแผนที่เป็นทั้งนักรักและนักรบที่เก่งตามตำนาน อีกทั้งบุตรสาวตนชื่อจริง เรือนแก้ว ยังสอดคล้องซึ่งเป็นองค์ประกอบของพระขุนแผน
นอกจากนี้ตนยังได้ปรึกษาขอความรู้ที่ตนอยากสร้างพระขุนแผนเพื่อไปแจกให้กับชาวบ้านที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินทร์และดาราฮอลลีวูดเพื่อจรรโลงและเผยแพร่พระพุทธศาสนาสู่สากลต่อไป สำหรับจา พนม หรือ โทนี่ จา โด่งดังจากหนังเรื่อง องค์บากและต้มยำกุ้ง จนได้รับรางวัลสุพรรณหงส์เกียรติยศ ล่าสุดโกอินเตอร์แจ้งเกิดและเป็นที่รู้จักจากหนังฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลีวูด FURIOUS 7 รวมทั้งมีผลงานโกอินเตอร์อีก2เรื่อง SKIN TRADE และ SPL รวมถึง HIGH VALUE TARGET ในส่วน วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร พระเทพสุวรรณโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ วรวิหาร กล่าวว่า ขณะนี้การแกะสลักพระพุทธปุษยคีรี ศรีสุวรรณภูมิที่มหาพุทธสถานพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี คืบหน้าไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมในช่วงนี้นอกจากจะได้สักการะบูชาพระเกตุมาลาที่ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ปิดทองเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต รวมทั้งพระพุทธปุษยคีรี ศรีสุวรรณภูมิที่กำลังแกะสลักแล้ว ยังจะได้ชมน้ำตกผามังกรบิน ที่มีความกว้างประมาณ 800 เมตร เหตุที่เรียกว่า ผามังกรบิน เนื่องจากมีลักษณะโค้งคล้ายกับปีกกา ส่วนตรงที่แกะสลักมีลักษณะยื่นออกมา คล้ายหัวมังกร และภูเขาเบื้องหลังที่ทอดยาวออกไปคล้ายกับลำตัวของมังกร โดยภาพรวมแล้ว จึงมีลักษณะคล้ายกับมังกรที่กำลังกางปีกบิน มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยน้ำตกนี้ จะตกลงทั้งสองข้างของผา โดยเฉพาะทางปีกด้านซ้ายจะมีน้ำตกไหลลงมามาก ซึ่งทั้งสองฝั่งจะมีอ่างเก็บน้ำ เพื่อรองรับน้ำที่ตกจากหน้าผาไว้สำหรับใช้ตลอดปี โดยเฉพาะการแกะสลักพระต้องใช้น้ำหล่อเลี้ยงตลอด 24 ชั่วโมง โดยในขณะนี้ได้ใช้น้ำในการแกะสลักชั่วโมงละ 10,000 ลิตร ดังนั้นจะต้องเก็บน้ำไว้ให้พอใช้จนกว่าการแกะสลักองค์พระจะแล้วเสร็จ
สำหรับพระพุทธปุษยคีรี ศรีสุวรรณภูมิ ถือเป็นมรดกของศาสนา มรดกของชาติ และมรดกของโลก เพราะเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหน้าผาหนึ่งเดียวในไทยและยิ่งใหญ่ในโลก และเหตุที่ใช้ชื่อว่า ปุษยคีรี เนื่องมาจากการขุดพบศิลาจารึกที่ปรากฏชื่อนี้อยู่ ณ เมืองโบราณอู่ทอง เมื่อทำการสืบค้นกลับไปพบว่าปุษยคีรี ไปพ้องกันกับภูเขาปุษยคีรีสังฆาราม ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช จงน่าเชื่อได้ว่าบริเวณวัดเขาทำเทียมน่าจะเป็นความต่อเนื่องกันของการเผย แพร่พระพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศไทย จึงเป็นที่มาของชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลนั่นเอง
เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น