พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ ส.ป.ก. โดยมี นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ พ.อ.นฤดล ท้าวฤทธิ์ รอง ผบ.มทบ.17 และ พ.อ.ธารา เจนตลอด เสธ มทบ.17 ร่วมต้อนรับ
เมื่อ 9 ก.ย.59 เวลา 0830 พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง การดำเนินการของ ส.ป.ก. ตามมาตรการการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติที่ 36/2559 (5 กรกฎาคม 2559) การบังคับใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 กรณีที่ดินที่ไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ 500 ไร่ขึ้นไป โดย รมว.กษ. จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ยึดคืน จากการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในวันศุกร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๙ ณ หมู่ ๕ ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
สำหรับ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินการตามมาตรการที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ส่งประกาศ เรื่องกำหนดพื้นที่เป้าหมายการดำเนินการ กับผู้ครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอไทรโยค อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอพนมทวน และอำเภอเลาขวัญ จำนวน 16 แปลง รวมพื้นที่ 17,566.01 ไร่ โดยติดประกาศเพื่อให้ผู้ถือครองที่ดินยื่นคำร้องพร้อมพยานหลักฐานแสดงสิทธิของตนตามประมวลกฎหมายที่ดิน หรือกฎหมายอื่น โดย ส.ป.ก.กาญจนบุรี ได้ดำเนินการติดประกาศพื้นที่เป้าหมายแปลงแรก ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นมา
ปรากฏว่า แปลงที่ดินที่ไม่มีผู้ครอบครอง ยื่นเอกสารคัดค้านจำนวน ๓ แปลง ประกอบด้วย พื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง เนื้อที่ 603.73 ไร่ พื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค เนื้อที่ 931.2 ไร่ และ 1,263 ไร่ รวมเนื้อที่ทั้งหมด ๒,๗๙๗.9๓ ไร่ ดังนั้น ส.ป.ก.กาญจนบุรี จึงได้ดำเนินการจัดทำป้ายคำสั่งให้ผู้ครอบครองที่ดินออกจากที่ดิน และทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งอื่นใด ในพื้นที่เป้าหมายตามคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติที่ 36/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ข้อ 4(1) และ (2) ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้ หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับการแต่งตั้งจะเข้าดำเนินการยึดและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารสิ่งปลูกสร้างจะต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อนำแปลงที่ดินส่งมอบให้ คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เพื่อจัดให้แก่ผู้ยากจนและผู้ไร้ที่ดินทำกิน ตามนโยบายจัดที่ดินทำกินชุมชนของรัฐบาล พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ในรูปแบบสหกรณ์
ด้าน นายสุวรรณ บูราพรนุสรณ์ กล่าวว่า พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ยึดคืนมาได้แปลงที่ 14 (แปลงที่ดินนางสาวเพียงใจ หาญพาณิชย์) หมู่ที่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ 1,263 ไร่ โดยการจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดที่ดินในการส่งมอบให้คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ต่อไป ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีกำหนดการลงตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ของ ส.ป.ก. จังหวัดกาญจนบุรีและเปิดโครงการ (วันที่ 9 กันยายน 2559) โดยจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) ในพื้นที่ด้วย
อีกทั้ง ได้มีนโยบายให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ทำการเกษตรว่าเหมาะสมกับ การประกอบอาชีพชนิดใด (Agri-Map) จากผลการวิเคราะห์สรุปว่าพื้นที่แปลงที่ 14 เนื้อที่ ๑,๒๖๓ ไร่ มีความเหมาะสมในการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้น กรมปศุสัตว์และ ส.ป.ก. จึงได้หารือในเบื้องต้น จะดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพการเลี้ยงแพะเป็นอาชีพหลัก โดยดำเนินการ จัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร จำนวน 96 ราย รายละ 3 ไร่ ต่อครอบครัว ซึ่งมีการสร้างที่อยู่อาศัยและคอกแพะ ในเนื้อที่ 288 ไร่ พร้อมทั้งกันพื้นที่เพื่อปลูกแปลงหญ้ารวม จำนวนไม่น้อยกว่า 420 ไร่ มีพื้นที่ส่วนกลาง เนื้อที่ 430 ไร่ พื้นที่สาธารณะและอื่น ๆ เนื้อที่ 125 ไร่
อีกทั้ง ได้มีนโยบายให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ทำการเกษตรว่าเหมาะสมกับ การประกอบอาชีพชนิดใด (Agri-Map) จากผลการวิเคราะห์สรุปว่าพื้นที่แปลงที่ 14 เนื้อที่ ๑,๒๖๓ ไร่ มีความเหมาะสมในการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้น กรมปศุสัตว์และ ส.ป.ก. จึงได้หารือในเบื้องต้น จะดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพการเลี้ยงแพะเป็นอาชีพหลัก โดยดำเนินการ จัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร จำนวน 96 ราย รายละ 3 ไร่ ต่อครอบครัว ซึ่งมีการสร้างที่อยู่อาศัยและคอกแพะ ในเนื้อที่ 288 ไร่ พร้อมทั้งกันพื้นที่เพื่อปลูกแปลงหญ้ารวม จำนวนไม่น้อยกว่า 420 ไร่ มีพื้นที่ส่วนกลาง เนื้อที่ 430 ไร่ พื้นที่สาธารณะและอื่น ๆ เนื้อที่ 125 ไร่
จ.ส.อ.ขจร ใจชุ่ม ฝขว.บก.ควบคุม มทบ.๑๗
พท.อภินันท์ แสงคุ้มภัย ฝขว.บก.ควบคุม มทบ.๑๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น