วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

ครบรอบ 63 ปี พิธีราชาภิเษกสมรส .. ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเข้าพิธีราชาภิเษกสมรส กับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันศุกร์ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ครั้นได้เวลาพระฤกษ์ คือ เวลา 10.00 นาฬิกา หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ทรงพาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ที่นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมุดทะเบียนสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย จากนั้น หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ลงนาม ซึ่งขณะนั้นมีชนมายุเพียง 17 ปี หม่อมเจ้านักขัตรมงคล จึงทรงลงพระนามในฐานะพระบิดา และหม่อมหลวงบัวลงนามในฐานะพระมารดา แล้วทรงโปรดให้ราชสักขีลงนามเป็นลำดับต่อไป จากนั้น10.30จึงเสด็จขึ้นประทับ ณ ห้องพระราชพิธีบนพระตำหนัก เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ได้ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพแด่สมเด็จพระพันวัสสาฯ แล้วสมเด็จพระพันวัสสาฯทรงถวายน้ำพระมหาสังข์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประทานน้ำพระมหาสังข์แด่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ตามโบราณราชประเพณี แห่งการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส จากนั้น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเจิมพระนลาฎพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงเจิมหน้าผากหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ตามลำดับ หลังจากที่ทรงเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เสด็จพระราชดำเนินยังห้องรับแขกอีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางพระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่สองแถวในห้องรับแขกของวังสระปทุม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เมื่อจบคำประกาศของอาลักษณ์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์แด่สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เนื่องในการอันเป็นมหามงคลครั้งนี้ด้วย จากนั้นพระบรมวงศานุวงศ์และพระประยูรญาติใกล้ชิด ได้ทูลเกล้าฯถวายของขวัญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ซึ่งพระองค์ก็ได้พระราชทานของที่ระลึกเป็นการตอบแทน คือ หีบเงินขนาดเล็ก มีตราจักรีคล้องกันอยู่เบื้องกลางระหว่างอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภ.อ.และอักษรพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินกลับที่ประทับ ครั้นได้เวลาพระฤกษ์ คือ เวลา 15.30 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เสด็จออก ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง ประทับเหนือพระราชอาสน์ พระบรมวงศานุวงศ์ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เมื่อได้เวลามหามงคลฤกษ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชัยนาทนเรนทร ทรงรับฉันทานุมัติให้กล่าวถวายพระพรในนามของพระบรมวงศานุวงศ์ และจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ซึ่งมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรอยู่ เมื่อกล่าวจบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์เสด็จขึ้น ชาวพนักงานประโคมแตร และกลองมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อเสร็จการพระราชพิธีแล้ว สมเด็จพระราชินีได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันรุ่งขึ้นซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 29 เมษายน พุทธศักราช 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานโดยทางรถไฟไปยังพระราชวังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถ เป็นเวลา 5 วัน ขอทั้ง ๒ พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน http://www.oknation.net/blog/nfedlion/2013/04/28/entry-1 เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น