วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

สมุทรสาคร ร้องศูนย์ดำรงธรรม คัดค้านการเปิดท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน




              แกนนำชาวสมุทรสาคร เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร คัดค้านการเปิดท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน จากกรณี มีการยื่นหนังสือให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยกเลิกคำสั่งระงับการเปิดท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน อัคร   หรือ  ท่าเรือเซนจูรี เดิม





              วันที่ 30 มกราคม 2558    แกนนำชาวสมุทรสาคร เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร คัดค้านการเปิดท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน จากกรณี  มีการยื่นหนังสือให้ ว่าที่ ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยกเลิกคำสั่งระงับการเปิดท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน อัคร  หรือ ท่าเรือเซนจูรี่ เดิม  โดยมี พ.ต.อ.ชัยยุทธ  ถมยา  ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร คนใกม่ เป็นตัวแทนรับเรื่องร้องทุกข์






          "  เรื่องเดิม จากกรณี  แกนนำกลุ่มสมุทรสาคร พร้อมชาวบ้าน ชาวประมง และชาวสวนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานขนถ่ายหิน 5 แห่ง ประท้วงปิดถนนพระราม 2 ทำให้การจราจรทั้งขาเข้าและออกติดขัดเป็นระยะทางยาวนานนับชั่วโมง

เมื่อวันที่  13 กรกฎาคม  2554  นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมประมงจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมผู้ชุมนุมกลุ่มต่อต้านถ่านหินอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตสมุทรสาคร และชมรมเรารักษ์แม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐมรวมทั้งกลุ่มอนุรักษ์อ่าวตัว ก.ประมงชายฝั่งสมุทรสาคร ประมาณ 1,000 คน ได้มารวมตัวปิดถนนกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ถนนเศรษฐกิจ 1 ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

โดยมีผู้แทนของกลุ่มเรียกร้องให้ทางจังหวัด 5 ข้อคือ สั่งการให้หยุดการขนถ่ายถ่านหินทุกประเภท ในทะเลปากอ่าวสมุทรสาคร และแม่น้ำท่าจีน, หยุดออกใบอนุญาต สร้างโรงงานประกอบกิจการถ่านหิน หรือเก็บกอง คัดแยกถ่านหินเพิ่มอีก, โรงงานเก็บกองคัดแยกและจำหน่ายถ่านหินต้องเป็นระบบปิดที่ได้มาตรฐานสากล และต้องไม่อยู่พื้นที่สีเขียว (พื้นที่เกษตร) ชุมชน วัด และโรงเรียน, การขนถ่ายถ่านหินทางรถ ต้องเป็นระบบปิดที่ได้มาตรฐานสากลเท่านั้น และหากผู้ประกอบกิจการถ่านหินรายใดยังเพิกเฉย สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนอีก ทางจังหวัดต้องสั่งปิดกิจการทันที โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้รวมพลใช้รถกระบะและรถบรรทุกปิดถนนพระราม 2 ทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณข้างตลาดกุ้ง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทั้งขาเข้าและขาออก กทม. เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดดำเนินการกับกลุ่มผู้ประกอบการถ่านหิน


ต่อมาทางด้านนายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายไพศาล สำราญทรัพย์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาค รพ.ต.อ.วุฑฒิ ศรีรัตนวุฑฒิ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.ชัยชาญ ปุระธนานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้เดินทางมาเพื่อเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม

โดยทางกลุ่มชุมนุมได้มีจุดยืนในการเจรจาต่อรองว่าขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีหนังสือคำสั่งถึงหน่วยงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และเทศบาล ยกเลิกใบประกอบกิจการโรงงานถ่านหินและท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน และส่งหนังสือตอบรับของหน่วยงานต่างๆแก่กลุ่มต่อต้านถ่านหินทันที และให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นและเทศบาลทำประชาพิจารณ์ใหม่ทั้งหมดและต้องไม่น้อยกว่า 80% ของจำนวนประชากรในพื้นที่นั้นๆภายใน 7 วัน

โดยนายจุลภัทร แสงจันทร์ กล่าวว่าจังหวัดจะรับไปดำเนินการให้พร้อมทั้งจะสั่งให้กรมเจ้าท่าส่งเรือไปเฝ้าและระงับไม่ให้เรือขนถ่ายถ่านหินเข้ามา ผู้ชุมนุมจึงสลายตัวเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.  "






             ยุทธนัย   อังกิตานนท์ บรรณาธิการ นสพ.เสียงประชา   ข่าว
 เรวัติ น้อยวิจิตร   hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com  08-1910-7445

               
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น