วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สุพรรณบุรี ไฟปริศนาไหม้รถกระบะวอด 2 คันเสียหายกว่าล้านบาท



    เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 1 ก.ย. ร.ต.ท.ณรงค์  วังเสาร์  ร้อยเวร สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถที่บ้านเลขที่ 195/1 หมู่ 3 ต.ทับตีเหล็ก ไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และเทศบาลตำบลท่าระหัด 2 คันที่เกิดเหตุเป็นจอดรถติดกับตัวบ้านพบไฟกำลังลุกไหม้รถรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บต 3952 อ่างทอง แล้วลุกลามไหม้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บร 1832 สุพรรณบุรี และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ที่จอดคู่กัน อย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงใช้เวลา ประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ  ตรวจสอบเบื้องต้นพบรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ ซึ่งบรรทุกรองเท้ายางรถยนต์เกือบเต็มคัน และรถจักรยานยนต์ ถูกไฟไหม้เสียทั้งหมดส่วนรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ถูกไฟไหม้เหลือเพียงส่วนกระบะท้าย



                 จากการสอบถามนางรุ่งรัตน์  อัฏฏาลกศิริ อายุ 47 ปีเจ้าของบ้านเล่าว่าตนและนายยอด  บุญเลิศ อายุ 40 ปีสามีประกอบอาชีพค้าขายโดยรับรองเท้ายางของกลุ่มแม่บ้านจากภาคอิสาน มาขายในพื้นที่ภาคกลาง โดยทำมาแล้วหลายปีไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 5 โมงเย็นของวันที่ 31 ส.ค.ได้ขับรถทั้งสองคันมาจอดไว้ตามปกติและเข้านอนประมาณสี่ทุ่ม กระทั่งประมาณตี 3 สามีสะดุ้งตื่นเพราะนึกว่า เช้าแล้วเนื่องจากแสงไฟสว่างเมื่อเดินออกมาหน้าบ้านก็พบว่ารถถูกไฟไหม้จึงเรียกตนออกมาช่วยกันลากสายยางรดน้ำต้นไม้มาฉีดเพื่อดับไฟแต่ไม่สามารถดับได้จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยแต่ไม่ทันรถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด โชคดีที่ไฟไม่ลุกลามเข้าบ้านส่วนสาเหตุนั้นตนคาดว่าน่าจะถูกวางเพลิงเพราะก่อนหน้านั้นเคยถูกโจรเข้ามาทุบกระจกรถได้ทรัพย์สินไปหมื่นกว่าบาทห่างกันเพียง 7 วันโจรก็เข้ามางัดบ้านได้เงินไปอีกประมาณ 5,000 บาทแล้วก็มาเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นอีกมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,500,000 บาท อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์หาหลักฐานอย่างละเอียดและสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
    











 ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี

โปรดเกล้าฯแล้ว "ครม.ประยุทธ์ 1"



เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2557 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรายชื่อคณะรัฐมนตรี หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้ว


ประกาศ ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2557  พ.ศ.2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน


สำหรับรายชื่อบุคคลที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีดังนี้



พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม


"บิ๊กป้อม" เกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2488 อายุ 69 ปี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 6 ปี 12 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 17 ปี 21 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก สำหรับตำแหน่งสำคัญที่รับราชการ อาทิ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 พัน.2 รอ.) ปี 32 เป็นผู้บังคับการกรมทหาราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ปี 39 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ในปี 40 ได้รับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 ปี 41 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 ปี 43 และผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ (ผช.เสธ.ทบ.ฝยก.) ได้รับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 และขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารบก ปี 47

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร
รมช.กลาโหม 


"บิ๊กโด่ง" เกิดเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2498 อายุ 59 ปี สมรสกับนางวิภาดา สีตบุตร สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 14 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 25 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 65 เริ่มรับราชการตั้งแต่ปี 21 ผู้บังคับหมวดกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ส่วนตำแหน่งสำคัญ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.), ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ พ.ศ.2545, รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ปี 47, เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ปี 49, ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ปี 51, รองแม่ทัพภาคที่ 1 พ.ศ.2552, แม่ทัพภาคที่ 1 พ.ศ.2553, เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) ปี 55, รองผู้บัญชาการทหารบก ปี 56

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ


"บิ๊กเจี๊ยบ" เกิดวันที่ 9 พ.ย. 2496 อายุ 60 ปี สมรสกับนางเพ็ญลักษณ์ ปฏิมาประกร (บุนนาค) จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 (ตท.12) และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 23 ตท.12 และ จปร.23 ร่วมรุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร เติบโตมาจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือราชินี) และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี และเคยเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยนี้มาก่อน นอกจากนี้ยังเคยเป็นผู้บังคับบัญชาคนแรกของหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ 90 (ฉก.90)

ดอน ปรมัตถ์วินัย
รมช.ต่างประเทศ

เกิดวันที่ 25 ม.ค. 2493 อายุ 64 ปี สมรสกับนางนรีรัตน์ ปรมัตถ์วินัย นายดอนจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนรับทุน ก.พ.เรียนต่อ

สหรัฐอเมริกา UCLA (ป.ตรีและโท) Fletcher School of Law and Diplomacy, Tufts University (ป.โท) เป็นอดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และเคยเป็นทูตใหญ่ประจำในหลายประเทศ ก่อนเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ

วิษณุ เครืองาม
รองนายกรัฐมนตรี


เกิดวันที่ 15 ก.ย. 2494 อายุ 63 ปี สมรสกับนางวัชราภรณ์ เครืองาม มีบุตรชาย 1 คน ชื่อนายวิชญะ เครืองาม จบการศึกษาคณะนิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดีมาก) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบเนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ระดับปริญญาโท Master of Laws (LL.M.) และปริญญาเอก Doctor of the Science of Law (J.S.D.) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยทุนรัฐบาล เริ่มรับราชการโดยเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนจะย้ายไปประจำที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มงานทางการเมืองในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ.2535 สมัยรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร และได้เข้าทำงานการเมืองอีกครั้งในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ.2545 โดยรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีถึง 2 สมัย ต่อมาหลังการรัฐประหาร ปี 49 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ด้วย

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล
รองนายกรัฐมนตรี


เกิดวันที่ 15 กรกฎาคม 2490 อายุ 67 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ จาก Wharton School มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เริ่มทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย แล้วมารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี เป็น รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร จากนั้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อนมารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์



ยงยุทธ ยุทธวงศ์
รองนายกรัฐมนตรี



เกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2487 อายุ 70 ปี สมรสกับนางอรชุมา ยุทธวงศ์ จบโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน) คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้รับปริญญาตรีเคมี เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากมหาวิทยาลัยลอนดอน และปริญญาเอกสาขาอินทรีย์เคมีจากมหาวิทยาลัยออกซ

ฟอร์ด ได้รับรางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดีเด่น" และได้รับการยกย่องเป็น "นักวิทยาศาสตร์อาวุโส" เคยเป็น รมว.วิทยาศาสตร์ฯในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์


ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล
รมต.สำนักนายกฯ



เกิดวันที่ 26 สิงหาคม 2499 อายุ 58 ปี จบโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร จากนั้นจึงติดตามครอบครัวไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ณ โรงเรียนเตรียมทหารคิงส์ ประเทศออสเตรเลีย โดยสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ และปริญญาโททางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จาก Brigham Young University สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นเข้ารับราชการในกองทัพบก ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดส่วนการศึกษา กองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ชั้นยศร้อยเอก จากนั้นได้โอนย้ายมารับราชการ สังกัดกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง ทั้งรองผู้ว่าฯสมุทรสาคร รองผู้ว่าฯปทุมธานี และรองผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2550 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ 10 (ชช.) ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ว่าฯนครปฐม ในปี 2552 ต่อมาในปี 2553 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯเชียงใหม่ จนปี 2555 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และในปี 2557 คสช.ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี




สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ
รมต.สำนักนายกฯ
อายุ 60 ปี เคยผ่านงานที่สำคัญของหน่วยข่าวกรอง อาทิ ทำงานปฏิบัติการที่ประเทศกัมพูชา ปฏิบัติงานที่ประเทศออสเตรเลีย ผ่านงานด้านการรักษาความปลอดภัย ผ่านงานด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ผ่านการปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านงานการบริหารในสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) เป็นรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ



พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รมว.มหาดไทย 


"บิ๊กป๊อก" เกิดเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2492 สมรสกับนางกุลยา เผ่าจินดา มีบุตร-ธิดา 2 คน ชื่อนายยุทธพงษ์ เผ่าจินดา และ น.ส.วิมลิน เผ่าจินดา จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 21 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก จบศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการสำหรับนักบริหาร) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นนายทหารที่อยู่ในสายงานคุมกำลังรบมาตั้งแต่เริ่มรับราชการใหม่ เคยเป็นผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ทหารเสือราชินี (ผบ.ร.21 รอ.) เป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ก่อนจะได้เลื่อนเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งในขณะที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 นั้น ได้เป็นหนึ่งในทหารผู้ก่อการรัฐประหารในประเทศไทย 19 ก.ย. 49 ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นผู้บัญชาการทหารบก (คนที่ 36) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 50



สุธี มากบุญ
รมช.มหาดไทย


เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2493 ปัจจุบันอายุ 64 ปี สมรสกับนางต้องฤดี มากบุญ จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร จบรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) รับราชการครั้งแรกเมื่อปี 17 ในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี และได้รับการบรรจุเป็นนายอำเภอตาลสุม จ.อุบลราชธานี ปี 31 และย้ายสลับระหว่างตำแหน่งนายอำเภอและเป็นผู้อำนวยการกอง จนกระทั่งปี 2539 ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม จากนั้นในปี 40 เป็นรองผู้ว่าฯสกลนคร ลพบุรี นครสวรรค์ มุกดาหาร ตามลำดับ ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯยโสธร ปี 45 ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯอุบลราชธานี ปี 48 และผู้ว่าฯนครราชสีมา ปี 50 กระทั่งเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 52


พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา
รมว.ยุติธรรม


"บิ๊กต๊อก" เกิดวันที่ 21 มิ.ย. 2498 สมรสกับนางพจนี คุ้มฉายา จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนอู่ทอง เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ และจบจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 15 (ตท.15) และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 26 (จปร.26) รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ศึกษาต่อปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับราชการตำแหน่งหลักของกองทัพบก ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการกรม ทั้ง 3 กรม ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ แม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนขึ้นสู่ผู้ช่วย ผู้บัญชาการทหารบก เป็น ผบ.หน่วย ฉก.เพชราวุธ เป็นทหารหน่วยแรกนอก ทภ.4 ที่ไปปฏิบัติงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 47 และเป็นนายทหารสายวงศ์เทวัญเพียงคนเดียวที่อยู่ท่ามกลางบูรพาพยัคฆ์


พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว
รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์


"บิ๊กอู๋" เกิดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2497 ชาวนครพนม อายุ 59 ปี สมรสกับนางอรัญญา อรัณยกานนท์ มีบุตรชาย 1 คน จบมัธยมโรงเรียนเทเวศร์ศึกษา เป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 29 จบปริญญาโทด้านพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนครพนม เริ่มต้นชีวิตราชการ รอง สวป.สน.ปทุมวัน ย้ายเป็นผู้บังคับหมวดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นครพนม เป็น สวป.เมืองมุกดาหาร สว.สภ.กิ่ง อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร สว.สภ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร, เป็นหัวหน้าแผนก 3 ยุทธการ กก.ตชด.13 จ.กาญจนบุรี, รอง ผกก.อก.ตชด.ภาค 1, รอง ผกก.2 สสน.ตชด., อาจารย์ภาควิชาทหารและทหารฝึก ร.ร.นรต., รอง ผบก.รร.นรต., รอง ผบก.ตชด.ภาค 1, ผบก.สำนักงานแผนงานและงบประมาณ ผบก.จร., ผู้ช่วย ผบช.น., รอง ผบช.น., ผบช.ภ.3, ก่อนลงใต้เป็น ผบช.ภ.9 ทำหน้าที่ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า นำทัพกองกำลังตำรวจในภารกิจดับไฟใต้ กระทั่งเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ก็ยังคงอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปรึกษา (สบ 10), รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ก่อนเป็น ผบ.ตร.ในเดือน ต.ค. 55 และถูกย้ายไปประจำสำนักนายกฯหลังปฏิวัติ 22 พ.ค. 57



พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
รมว.พาณิชย์ 

"บิ๊กนมชง" เกิดวันที่ 5 ส.ค. 2498 อายุ 59 ปี สมรสกับ พล.ต.หญิง อัญรัช สาริกัลยะ จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 12 (ตท.12) และ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 23 (จปร.23) รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เติบโตมาจากเหล่า "ทหารช่าง" และถือเป็น "ขุนศึก" ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ-การเงิน มากที่สุดคนหนึ่งของกองทัพบก ตำแหน่งสำคัญ เจ้ากรมการเงินทหารบก รองปลัดบัญชีทหารบก ผู้ช่วยเสธ.ทบ. ฝ่ายส่งกำลังบำรุง รอง เสธ.ทบ. ก่อนขยับขึ้นพลเอกในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ แล้วก้าวสู่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ.เคยเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5


อภิรดี ตันตราภรณ์
รมช.พาณิชย์ 


จบการศึกษาปริญญาโทด้านการค้าระหว่างประเทศ Syracuse University, U.S.A รับราชการในกระทรวงพาณิชย์หลายตำแหน่ง อาทิ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ประธานบริหาร หัวหน้าคณะเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ



ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
รมว.วิทยาศาสตร์ฯ


เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2498 ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบปริญญาเอก ด้านนโยบายและการจัดการสาธารณะจาก Wharton School, University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมาเคยดำรงตำแหน่งทั้งหน่วยงานของรัฐและระดับมหาวิทยาลัยมากมาย อาทิ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรรมการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กรรมการผู้คุณวุฒิในสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) กรรมการมูลนิธิสิ่งแวดล้อมไทย และที่ปรึกษาอธิการบดีด้านนโยบายและแผน มจธ. โดยถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับต้นๆ ของประเทศไทย



พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์
รมว.แรงงาน



"บิ๊กเต่า" เกิดวันที่ 7 กันยายน 2497 อายุ 59 ปี สมรสกับ นางแสงอรุณ กาญจนรัตน์ มีบุตร 2 คน เพื่อนเตรียมทหาร รุ่น 12 (ตท.12) และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 23 (จปร.23) ของ พล.อ.ประยุทธ์ เติบโตมาในสายกิจการพลเรือน โดยเป็นอาจารย์หัวหน้าวิชาการปฏิบัติการจิตวิทยา โรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือน ทบ. และผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ประกอบด้วย เจ้ากรมกิจการพลเรือน ทบ. ผู้ช่วย เสธ.ทบ.ฝ่ายกิจการพลเรือน ทบ. รองเสนาธิการ ทบ. หัวหน้าสำนักงานผู้บัญชาการ ทบ. และรองปลัดกระทรวงกลาโหม ก่อนได้รักษาราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมแทน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ถูกโยกไปเป็นประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมตามคำสั่ง คสช. ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 57


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง
รมว.คมนาคม

"บิ๊กจิน" เกิดวันที่ 7 มีนาคม 2497 อายุ 60 ปี สมรสกับ นางจินตนา จั่นตอง มีบุตร 2 คน จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 13 (ตท.13), โรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 20 (นรอ.20), วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 48 (วปรอ.48) และสำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต จากสถาบันรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เคยผ่านตำแหน่งสำคัญๆ มากมาย เช่น ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผน กรมยุทธการ ทอ. ผู้บังคับการกองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศไทยประจำกรุงบอนน์ รักษาการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศไทยประจำกรุงปารีส รักษาการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศไทยประจำกรุงโรม เจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งเสนาธิการ ทอ. ในปี 2552 ก่อนจะขยับขึ้นนั่งงเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการ ทอ. ในปี 2554 และรับตำแหน่งผู้บัญชาการ ทอ.ในปี 2555


อาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รมช.คมนาคม

เกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2499 ปัจจุบันอายุ 58 ปี จบเศรษฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต Williams College, USA ปี 39-42 เป็นผู้อำนวยการกองวิเคราะห์และประมาณการเศรษฐกิจ ปี 42-43 เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 9 ชช. (ผู้เชี่ยวชาญ) ปี 43-46 เป็นผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปี 46-47 เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน ปี 47-53 เป็นรองเลขาฯสศช. และปี 53-ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเลขาฯสศช. ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และลาออกเพื่อมารับตำแหน่งรัฐมนตรี


พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย
รมว.ศึกษาธิการ 

"บิ๊กเข้" เกิดวันที่ 7 ตุลาคม 2496 อายุ 60 ปี "บิ๊กเข้" จบเตรียมทหารรุ่น 13 (ตท.13) โรงเรียนนายเรือรุ่นที่ 20 หัวหน้านักเรียน เหล่าพรรคนาวิน ผ่านตำแหน่งที่สำคัญประกอบด้วย ผู้บังคับการเรือ ร.ล.คีรีรัฐ ร.ล.ปราบปรปักษ์ ร.ล.ตาปี และผู้บังคับเรือหลวงนาคา จากนั้นเป็นหัวหน้าแยกประเภท กองกำลังพล กรมกำลังพล ทร. และรักษาการ ผบ.รล.วิทยาคม จากนั้นมาเป็นอาจารย์ที่สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง (สรส.) ก่อนกลับไปเป็นรอง ผอ.กกฝ. กรมยุทธการ ทร. และเป็น ผอ.กองยุทธการ กรมยุทธการทหารเรือ ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำกรุงโรม อิตาลี ก่อนกลับมาเป็น รองเสนาธิการ สรส. แล้วก้าวเป็นรองเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ต่อด้วยผู้ช่วยเจ้ากรมยุทธการทหาร บก.กองทัพไทย จากนั้นข้ามมาเป็นเสนาธิการกองเรือภาค 2 กองเรือยุทธการ แล้วกลับมาเป็นเจ้ากรมยุทธการ ทร. แล้วขึ้นเป็น ผช.เสธ.ทร.ฝ่ายยุทธการ เป็นรอง เสธ.ทร. เป็นพลเรือเอก ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ จนปี 2555 ได้ขึ้นเป็นรอง ผบ.ทร. และเป็น ผบ.ทร.ในปี 2556


พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์
รมช.ศึกษาธิการ 

"บิ๊กน้อย" อายุ 59 ปี สำหรับตำแหน่งสำคัญที่รับราชการที่สำคัญ อาทิ ผบ.กองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร.4) เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 และเป็นแม่ทัพน้อยภาคที่ 3 (พล.ท.) ข้ามมาเป็นผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายกิจการพลเรือน (ผช.เสธ.ทบ.ฝกร.) และขยับรองเสนาธิการทหารบก (รอง เสธ.ทบ.) และได้เป็นรองหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คสช.


ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร
รมช.ศึกษาฯ


เกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2489 ปัจจุบันอายุ 67 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี B.Sc.First Class Hons. Electrical Engineering (เกียรตินิยมอันดับ 1) ในปี พ.ศ. 2511 และปริญญาเอกด้านวัสดุวิศวกรรมไฟฟ้า แขนงวิศวกรรมไมโครเวฟ จากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เริ่มรับราชการที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และได้เป็นอธิการบดี มจธ.และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในปี 2549 จนเกษียณอายุราชการ ปัจจุบันยังทำงานในแวดวงการศึกษา อาทิ เป็นรองประธานคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.) เป็นต้น

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


"บิ๊กหนุ่ย" เกิดวันที่ 8 กันยายน 2496 อายุ 60 ปี สมรสกับ พ.อ.หญิง สุพัตรา รัตนสุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เริ่มต้นชีวิตราชการทหารครั้งแรกกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ต่อมาปี พ.ศ.2530 ได้เป็นราชองครักษ์เวร จากนั้นได้เป็นฐานะผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ซึ่งมีอำนาจในการควบคุมกำลังรบหลักของกรุงเทพฯ ก่อนขึ้นดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาค 1 จากนั้นในปีถัดมาจะได้เป็นผู้ช่วยเสนาธิการ ทบ.ฝ่ายยุทธการ และได้เลื่อนขึ้นมาเป็นรองเสนาธิการ ทบ. และเสนาธิการ ทบ. นอกจากนี้ เมื่อครั้งรัฐประหารปี 2549 พล.อ.ดาว์พงษ์ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็น สนช. และนั่งเป็นเลขาธิการ กอ.รมน. และผู้ช่วยเลขานุการ ศอฉ.เมื่อครั้งการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ปี 2553 ด้วย



นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน
รมว.สาธารณสุข


เกิดวันที่ 13 สิงหาคม 2493 ปัจจุบันอายุ 64 ปี เคยเป็นอนุกรรมการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการควบคุมอันตรายในการใช้ยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สธ. ระหว่างปี พ.ศ.2538-2542 ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กรรมการบริหารราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ประธานวิชาการ สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และลาออกจากตำแหน่ง โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดลและประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)



นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศม์
รมช.สาธารณสุข

เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม 2496 อายุ 61 ปี จบการศึกษาปริญญาโทด้านสาธารณสุขศาสตร์ จาก Royal Tropical Institute,Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็เข้ารับราชการเมื่อปี 2526 ได้รับตำแหน่งต่างๆ ตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาล หัวหน้าสำนักประสานงานวิชาการและพัฒนากำลังคน ด้านสาธารณสุข ผอ.สำนักนโยบายและแผนสาธารณสุข เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยปลัดกระทรวง สธ.ในปี พ.ศ.2543 จนถึงปี พ.ศ.2544 มีผลงานทั้งที่เป็นตำราและงานวิจัยมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ริเริ่มการศึกษาและพัฒนาระบบบริการด้านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศ ที่มี นพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน มีคณะกรรมการ 27 คน ภายหลังมีการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปี 2553 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.)


กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร
รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

เกิดวันที่ 19 กันยายน 2503 อายุ 54 ปี สมรสกับ พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จบการศึกษาโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปริญญาตรี ด้านสถาปัตยกรรมจาก Rhode Island School of Design ประเทศสหรัฐอเมริกา (Bachelor Degree in Architecture) และหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง (วตท.5) สถาบันวิทยาลัยการตลาดทุน เริ่มทำงานในปี 2529 เป็นผู้จัดการแผนกโฆษณา ปี 2555 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด และในปี 2557 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อนที่จะลาออกมารับตำแหน่ง



สมหมาย ภาษี
รมว.คลัง 

เกิดวันที่ 26 มิถุนายน 2487 ปัจจุบันอายุ 70 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) ในปี 2510 และปริญญาโทสาขาเดียวกัน ในปี 2513 จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษาระดับปริญญาโทด้านการวางแผนและพัฒนา ที่มหาวิทยาลัยวานเดอบิลต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คลัง (นายสมหมาย ฮุนตระกูล) และเข้ารับราชการในกระทรวงการคลัง อยู่ในตำแหน่งสูงสุดคือรองปลัดกระทรวงการคลังจนเกษียณอายุราชการ ได้รับแต่งตั้งเป็น รมช.คลัง ในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่ต้องพ้นจากตำแหน่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 182(3) เนื่องจากศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2550 ตัดสินจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา จากกรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสั่งพักงาน นายทัศพงษ์ วิชชุประภา ผู้บริหารบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด เมื่อปี พ.ศ.2547 แต่ได้อุทธรณ์ในคดีดังกล่าว และชนะคดีในชั้นศาลอุทธรณ์


ณรงค์ชัย อัครเศรณี
รมว.พลังงาน 


เกิดวันที่ 3 กรกฎาคม 2488 ปัจจุบันอายุ 69 ปี สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา มีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย ปี พ.ศ.2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และในปี พ.ศ.2557 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นครั้งที่สอง


พรชัย รุจิประภา
รมว.เทคโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

จบการศึกษาปริญญาเอก Ph.D. (Regional Economics) University of Pennsylvania, U.S.A. เคยทำงานเกี่ยวข้องกับด้านพลังงานเป็นหลัก อาทิ กรรมการอิสระและประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกรรมการ ประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการลงทุนของบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น


ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยธุยา
รมว.เกษตรและสหกรณ์ 

เกิดวันที่ 22 มกราคม 2490 ปัจจุบันอายุ 67 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท MPA. California State University วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 33 ทำงานภาครัฐหลายหน่วยงาน อาทิ วิทยากร กองศึกษาภาวะเศรษฐกิจ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ผู้อำนวยการกองจัดการปฏิรูปที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กระทั่งขึ้นเป็นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี 2541 เป็นผู้อำนวยการสำนักงานการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (องค์การมหาชน) และข้ามมาเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


จักรมณฑ์ ผาสุกวณิช
รมว.อุตสาหกรรม

เกิดวันที่ 15 กุมภาพัน์ 2491 ปัจจุบันอายุ 66 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ California State University in Northridge, U.S.A. เข้าเรียนหลักสูตรนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 12 หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 39 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รับราชการหลายหน่วยงานรัฐ ได้แก่ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  และประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย



วีระ โรจน์พจนรัตน์
รมว.วัฒนธรรม




เกิดวันที่ 11 มีนาคม 2495 อายุ 63 ปี จบการศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประวัติการทำงาน เคยดำรงตำแหน่งอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ.2549-กันยายน 2553 รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ.2546-2549 รองอธิบดีกรมศิลปากร พ.ศ.2542-2546 เลขานุการกรมศิลปากร พ.ศ.2536-2542 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมสภามหาวิทยาลัยพะเยา ด้านสังคมได้รับเลือกเป็นบุคคลดีเด่นที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ประจำปี พ.ศ.2547 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับรางวัลสถาปนิกดีเด่นด้านสังคมและวัฒนธรรม จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ปี 2551 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) ปี 2551

..............

  ที่มา มติชนออนไลน์

                    เรวัติ  น้อยวิจิตร   สุพรรณบุรีนิวส์

กาญจนบุรี จัดงาน One Day Rotary หน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรตารี่สู่ชุมชน

         


              สโมสรโรตารี่จังหวัดกาญจนบุรีร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ โรงพยาบาล ในจังหวัดกาญจนบุรี จัดงาน One Day Rotary หน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรตารี่สู่ชุมชน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ



             วันนี้ (๓๑ ส.ค.๕๗ ) เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่โรงเรียนเทศบาล ๕ ( กระดาษไทยอนุเคราะห์) อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน One Day Rotary หน่วยแพทย์เคลื่อนที่สู่ชุมชน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย นายขวัญชัย เลาหวิรภาพ ผู้ว่าการภาค ๓๓๓๐ โรตารี่สากล หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และมูลนิธิ เข้าร่วม โดยมีนายเชษฐพงษ์ นาคะตระกูลพันธ์ นายกสโมสรโรตารี่กาญจนบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้




              สโมสรโรตารี่จังหวัดกาญจนบุรีได้ร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง เทศบาลเมืองกาญจนบุรี หอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา โครงการจุฬาฯรักษ์โลก สำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี และโรงเรียนเทศบาล ๕ (กระดาษไทยอนุเคราะห์) จัดงานOne Day Rotary หน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรตารี่สู่ชุมชน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้บริการประชาชนทางด้านสุขภาพและการรับบริจาคโลหิต ให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ



             ซึ่งภายในงานได้มีการนำหน่วยแพทย์ออกให้บริการในการรักษาโรคทั่วไป โรคตา และด้านทันตกรรม การรับบริจาคโลหิต พร้อมทั้งการให้บริการทั่วไป อาทิ การนวดเพื่อสุขภาพ บริการเสริมสวย การอบรมขับขี่ปลอดภัยและการตรวจเช็ครถจักรยานยนต์ ซึ่งมีประชาชนมาร่วมใช้บริการเป็นจำนวนมาก




             ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี  /  เรวัติ  น้อยวิิจิตร  กาญจนบุรีนิวส์

สุพรรณบุรี โจ๋ซิ่ง จยย.หนีการตรวจค้นเสยต้นไม้ดับ 2



              เมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 31 ส.ค. ร.ต.ท.กฤษดา พลายละหาร พงส.สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุ จยย.ชนต้นไม้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บที่ถนนสายนครปฐม-อู่ทอง หมู่  5 ต.จรเข้สามพัน ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงส์ ผกก.แพทย์เวร รพ.อู่ทอง และหน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ พบศพนายกิติพงศ์  แซ่ลี้ อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 11 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี และร่างนายจตุพร ตาตะสิงห์ อายุ  21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 9 ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งทั้งคู่นอนหงายอยู่ข้าง จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีแดงดำ ทะเบียน กม 5360 สุพรรณบุรี ล้มอยู่สภาพมีรอยชนล้อหน้าและล้อหลังบิดเบี้ยวพังเสียหาย จึงรีบนำร่างนายจตุพร ส่ง รพ.อู่ทอง ให้แพทย์ช่วยชีวิต แต่ทนอาการบาดเจ็บไม่ไหวเสียชีวิตที่ รพ. จากการตรวจสอบพบก่อนถึงจุดเกิดเหตุบริเวณไหล่ทางเป็นแอ่งน้ำ และต้นไม้ข้างทางมีรอยถูกชน




             จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดกองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารม้า ที่ 19  จังหวัดกาญจนบุรี (ผบ.รส. ม.พัน 19 จทบ. ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อู่ทอง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำกำลังออกตรวจท้องที่ เพื่อกวดขันปราบปรามยาเสพติดตามนโยบาย คสช.ถึงที่เกิดเหตุพบผู้ตายทั้งคู่ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ขับขี่ จยย.มาตามถนนสายดังกล่าวเมื่อเห็นรถของเจ้าหน้าที่ได้เร่งเครื่องหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ด้วยความเร็วสูงถึงจุดเกิดเหตุมีแอ่งน้ำข้างทางจึงหักหลบทำให้ จยย.เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ร่างทั้งคู่กระแทกต้นไม้อย่างแรงเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายคงกลัวความถูกจับซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั้งสองมีประวัติพัวพันยาเสพติดโดยเฉพาะนายกิติพงศ์  เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมทวนจับกุมคดีจำหน่ายยาเสพติด สำหรับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจจึงมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป















          เกรียงไกร  ก่อเกียรติตระกูล  บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สระบุรี ตำรวจรวบแล้วมือทุบชิงทรัพย์พ่อค้าปลาหมึก

   



                เมื่อ วันที่ 30 ส.ค 57 พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี นาย ทิวา วัชรกาฬ นายอำเภอเมืองสระบุรี พร้อมกำลัง ทหารจาก ชุด รส.จทบ.สบ.ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายสุวรรณ์  สมุติรัมย์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 5 ต ผึ้งรวง อ เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ผู้ต้องหาใช้ไม้ทำร้ายร่างกาย นายสังวาลย์  ละครพล อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่14 ม.5 ต.กุดรัง อ.กุดรังจ.มหาสารคราม พ่อค้าปลาหมึกย่าง  จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ รพ.สระบุรี



               เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.57 บริเวณ ใต้สะพานต่างระดับ บายพาส หน้าห้างโรบินสันสระบุรี เวลา06.45 น.คนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ ติดตามพ่อค้าขายปลาหมึกย่างที่ใช้รถสามล้อถีบมายังจุดเกิดเหตุ  ได้ใช้ไม้ตีเข้าที่ต้นคอจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วได้ล้วงกระเป่าเอาเงินนำไปจำนวน20,000บาทไป




                 ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจสระบุรีได้ติดตาม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว พร้อมกับได้ไปทำแผนประกอบ คำรับสารภาพโดยผู้ต้องหายอมรับว่าใช้รถจักรยานยนต์ ในการชิ่งทรัพย์จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป







(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว) 

นครปฐม มอบรางวัลการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้




               เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ประจำปี 2557 โดยสำนักทรัพยากรธรรมชาติและ...สิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้เยาวชน ประชาชน ได้รับทราบถึงแนวทางในการลดปริมาณขยะ และการนำขยะ หรือของเหลือใช้ไปดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ก่อนนำไปกำจัด อีกทั้งเป็นการกระตุ้นและเสริมสร้างจิตสำนึกให้เยาวชน ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาขยะมูลฝอย พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชน ประชาชนได้มีเวทีในการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ และร่วมทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนความคิดการปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้



            
               นายพรศักดิ์ ภู่อิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในปี 2557 มีสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการประกวดทั้งสิ้น 13 แห่ง 25 ชิ้นงาน ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาตัดสินและคัดเลือกผู้ชนะเลิศระดับจังหวัด ดังนี้
 

              1. ประเภทสิ่งประดิษฐ์ของใช้ภายในบ้านจากวัสดุเหลือใช้ ระดับประถมศึกษา

               - รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนวัดโคกเขมา ชิ้นงานของใช้สร้างสรรค์ขันโตก ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท

               - รางวัลรองชนะเลิศอับดับ 1 โรงเรียนทศบาล 1 วัดพระงาม (สามัคคีพิทยา) ชิ้นงานจินตนาการของผมและเพื่อนยินดีรับใช้ใส่ของครับ และได้รับรางวัลชมเชยระดับมัธยมศึกษา/อาชีวศึกษา (ปวช.) ชิ้นงานยิ่งสูงยิ่งสวย ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท

              - รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนอนุบาลสุธีธร ชิ้นงานกล่องเก็บเศษยางลบ ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท
               2. ประเภทสิ่งประดิษฐ์ของใช้ภายในบ้านจากวัสดุเหลือใช้

              - รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนเทศบาล 4 (เชาวนปรีชาอุทิศ) ชิ้นงานโคมไฟรักษ์โลก ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท

              - รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฏร์ประสิทธิ์) ชิ้นงานกระเป๋าหลอดรักษ์โลก และรางวัลชมเชยชิ้นงานโคมไฟรังผึ้ง ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท

               - รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนห้วยจระเข้วิทยาคม ชิ้นงานกระเป๋าผ้าจากเศษลูกไม้ ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท

 

               3. ประเภทเครื่องแต่งกายจากวัสดุเหลือใช้

               - รางวัลชนะเลิศ วิทยาลัยนาฏศิลปะ ชิ้นงานหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท

               - รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โรงเรียนวัดสามง่าม (คงทองอนุสรณ์) ชิ้นงานชุดสวยสุดประหยัด ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 





  ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม  
 เรวัติ  น้อยวิจิตร  นสพ.พลังชน   rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

นครปฐม มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๗





               เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานมอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่น และสตรีไทยดีเด่น จังหวัดนครปฐม ประจำปี 2557 โดยนางสาวชวนชม จันทะวงษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของ...มนุษย์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2557 จังหวัดนครปฐม ได้ทำการคัดเลือก นางสมจิตต์ คล้ายคลึง เป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดนครปฐม ประจำปี 2557 ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ประเภท แม่ที่มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร ซึ่งได้รับประทานพระบรมฉายาลักษณ์พระราชทาน และเกียรติบัตรจากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ไปแล้วเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร




                  ในส่วนคณะกรรมการคัดเลือกสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2557 จังหวัดนครปฐม ได้คัดเลือก รองศาสตราจารย์ ดร.จิราวรรณ คงคล้าย เป็นสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2557 ของสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งได้เข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติสตรีไทยดีเด่น จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี ทั้งนี้ในการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ และการคัดเลือกสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2557 จังหวัดนครปฐมมีมติให้มอบเกียรติบัตรจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้แก่ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ มีดังนี้
 

                  แม่ดีเด่น จังหวัดนครปฐม ประจำปี 2557 ได้แก่
     
                  1.นางสมจิตต์ คล้ายคลึง ประเภท แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร
                  2. นางประเทือง หวลบุตตา ประเภท แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
                  3. นางไทย ใจเยือกเย็น ประเภท แม่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
 




                  สตรีไทยดีเด่นจังหวัดนครปฐม ประจำปี 2557 ได้แก่
                  1.รศ.ดร.จิราวรรณ คงคล้าย
                  2. นางสุทิน ชัยขันธ์
 
 
 

  ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม  
 เรวัติ  น้อยวิจิตร  นสพ.พลังชน   rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445