โครงการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน ชาวนารอบโรงไฟฟ้าหนองแซง กลุ่มบริษัทกัลฟ์ ปีที่ 3
โรงไฟฟ้าหนองแซง กลุ่มบริษัทกัลฟ์ และมูลนิธิพลังงานไทย สานต่อความสำเร็จสร้างชาวนาต้นแบบ เดินหน้าส่งเสริมโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนปีที่3 ส่งเสริมการทำนาอินทรีย์ วิถีพอเพียง ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรทำนา ฟื้นฟูผืนดิน ระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ “ ชาวนารอบโรงไฟฟ้าตื่นตัว เปลี่ยนผืนนาข้าวเคมี เป็นนาข้าวอินทรีย์ จากนาเคมี16ไร่ในปีแรก...ปีที่3ชาวนาเข้าร่วมทำนาอินทรีย์ ถึง 66 ไร่ ” ณ บ้านหนองหลัว หมู่ 1 ต.หนองกบ อ.หนองแซง จ.สระบุรี
เมื่อ 23 ส.ค.57 เวลา 08.30 น .นายมาโนทย์ พงษ์พาลี ผู้จัดการโรงไฟฟ้าหนองแซง. นำพนักงานโรงไฟฟ้าหนองแซง และเกษตรกรชาวนา ต.หนองกบ อ.หนองแซง จ.สระบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมโครงการทำนาร่วมกันโดยวิธีการทำนาแบบโยนกล้า อินทรีย์ เพื่อสร้างชาวนาต้นแบบ ในการทำเกษตร ทำนาแบบปลอดสารเคมี และวิถีการผลิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแปลงสาธิตเพื่อการเรียนรู้ของชุมชน และขยายผลการทำนาที่ฟื้นฟูผืนดินและระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุน และ เพิ่มรายได้ชุมชน
ในกิจกรรม โครงการเกษตรกรรมยั่งยืน จัดทำแปลงนา สาธิตนา โยนกล้าอินทรีย์ โดยมี นายธนญ ตันติสุนทร กรรมการมูลนิธิพลังงานไทยเป็นวิทยากร มี นายประเสริฐ นุ่มรอด นายก องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกบ พร้อมกับประชาชนใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรม การโยนกล้า ในแปลงนาสาธิต ของ นายพศิน – นางแสงจันทร์ บัวโทน เลขที่ 40 หมู่ 1 ต.หนองกบ อ.หนองแซง จำนวน 6 ไร่ ในกิจกรรม จัดให้มีพิธีบูชาแม่โพสพ การโยนกล้าลงแปลงนาในครั้งนี้ ใช้พันธุ์ข้าวปลูก เรียกว่าพันธุ์ “ ไรท์บาหรี่” ซึ่งขณะนี้เป็นที่ต้องการของตลาดระดับสูง ราคาจะแพงกว่าข้าวขาวโดยทั่วไปที่มีอยู่ในท้องตลาด เป็นข้าวที่มีคุณค่าธาตุอาหารสูงกว่าข้าวชนิดอื่น ขณะเดียวกันการหันมาทำนาอินทรีย์ ถือเป็นการลดต้นทุนในการทำนา ฟื้นฟูดินในท้องทุ่งให้มีความสมบรูณ์ สุขภาพชาวนาปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลง ผู้บริโภคข้าวก็ปลอดภัย
โครงการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน โดยการสนับสนุนของ กลุ่มบริษัทกัลฟ์และมูลนิธิพลังงานไทย ร่วมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาให้หันมาทำนาอินทรีย์ ในฟื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัดสระบุรี ปีนี้เป็นปีที่ 3 โรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ โรงไฟฟ้าอุทัย ได้จัดทำโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเข้าไปส่งเสริมให้ชาวนาในพื้นที่อำเภออุทัย จัดทำแปลงนาสาธิต โดยวิธีโยนกล้า วิถีการผลิตแบบอินทรีย์ ชีวภาพ ไม่พึ่งพาสารเคมี เป็นแหล่งเรียนรู้สร้างชาวนาต้นแบบ ในปีแรกมีแปลงนาสาธิตเกิดขึ้นที่ อบต. สามบัณฑิตจำนวน 4 ไร่ พื้นที่ทำนาอบต.บ้านช้างจำนวน 5 ไร่ พื้นที่โพสาวหาญ7ไร่ รวมพื้นที่การทำนาที่เข้าร่วมโครงการ 16 ไร่
นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสาน และการพึ่งตนเอง เช่นการปลูกผัก เลี้ยงปลาในนาข้าว การเลี้ยงหมูหลุม ทำปุ๋ยใช้เอง เป็นต้น เพื่อการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุยเดช ฯ ที่ประสบผลสำเร็จในหลายพื้นที่ ของประเทศไทย
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น