มหาวิทยาลัยนเรศวรพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนทุ่งหลวง คีรีมาศ
สุโขทัย
เรียนรู้คู่ความสนุกสนาน สู่การสืบสานศิลปวัฒนธรรม
เพราะศิลปวัฒนธรรมคือรากเหง้าแห่งตัวตน
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการศึกษา อนุรักษ์และสืบทอด
“นั่นคือโจทย์สำคัญของสถานอารยธรรมศึกษา
โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร
ภายใต้พันธกิจด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมนำมาสู่การจัดการการท่องเที่ยวชุมชนเชิงศิลปวัฒนธรรม
ภายใต้แนวคิด “Culdutainment”ที่ก่อให้เกิดความสนุกสนานผสมผสานการเรียนรู้ นำไปสู่ความเข้าใจอันเป็นแนวทางสำคัญในการศึกษาและพัฒนาการท่องเที่ยว
ตลอดจนสร้างจิตสำนึกและเพิ่มมูลค่าให้แก่ตลาดผ่านการท่องเที่ยว มุ่งรักษาคุณค่าของชุมชนท้องถิ่น
โดยมีเป้าหมายคือ ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย”ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล
ผู้อำนวยการสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวรเล่าถึงแนวคิด
การลงพื้นที่ศึกษาวิถีชีวิต
แหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนวัฒนธรรม ประเพณีของชาวทุ่งหลวง ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเทศบาลตำลทุ่งหลวง
นำโดยนายวันชัย โมรัษเฐียร รองนายกเทศมนตรีตำบลทุ่งหลวง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูลเล่าถึงกระบวนการว่า“เราเริ่มต้นจากวิถีดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย
อันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน นั่นคือ เครื่องปั้นดินเผา
โดยการศึกษาค้นคว้าวิธีการปั้นแบบดั้งเดิมคือการปั้นมือ ไปจนถึงการปั้นขึ้นรูปด้วยแป้นหมุน
และการปั้นหล่อ
จากนั้นเชื่อมโยงโดยให้ศิลปะองค์ความรู้ของวิชาชีพการปั้นเหล่านี้ไปสู่การท่องเที่ยว
โดยการศึกษาว่าทุ่งหลวงมีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง”
การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมชุมชนทุ่งหลวงเริ่มจากการเรียนรู้
ลงมือทำเครื่องปั้นเดินเผาที่มีแทบทุกหลังคาเรือน ตามมาด้วยการทำน้ำตาลโตนดที่ปลูกกันมาแต่โบราณ
ทั้งน้ำตาลสด การเคี่ยว การหยอดน้ำตาลปึก ชิมจาวตาล ลอนตาลสดหวานหอมชื่นใจ หรือจะนำไปเชื่อม
ไปปรุงเป็นอาหารหวาน คาวได้อย่างหลากหลาย
ถึงเวลาเตรียมอาหารกลางวันช่วยหยิบ
ช่วยจับ และอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้านได้แก่ ชะเริ่มไก่ ขนมพับและขนมดอกดิน
อิ่มท้องแล้วภาคบ่ายไปไหว้พระในวัดลายและวัดดุสิตตาราม โดยวัดลายมีโบสถ์วิหาร
โบราณสถานเก่าแก่อายุนับร้อยปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลาการเปรียญที่หน้าบันมีลวดลายแกะสลักรูปครุฑและเทพพนมที่มีลักษณะพิเศษ
แตกต่างจากทั่วไป นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดลายที่รวบรวมเครื่องปั้นดินเผาข้าวของเครื่องใช้โบราณ
ซึ่งสถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวินได้เข้ามาจัดหมวดหมู่
เพื่อทำทะเบียนวัตถุแต่ละชิ้น ส่วนวัดดุสิตตาราม
มีจุดเด่นคือ สถาปัตยกรรม ลวดลาย จิตรกรรม
สะท้อนอารยธรรมการแลกเปลี่ยนกับชุมชนจีนและมอญ
ตกเย็น
ปั่นจักรยานชมชุมชนโบราณอาคารบ้านเรือนในแต่ละยุคสมัย
พร้อมวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม บอกเล่าประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นธรรมชาติ ชมสวนแตงโมขนาด
500 ไร่ ถ่ายภาพนกเป็ดน้ำจำนวนหลายพันตัวแถมมีควายเผือกซึ่งเป็นขวัญใจของเหล่านักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติเมื่อตะวันตกดินพักผ่อนในโฮมเสตย์
เก็บผัก ผลไม้ เตรียมอาหารมื้อค่ำ สังสรรค์พร้อมชมการศิลปะการแสดงระบำชาวดินรำพันด้วยลีลาการบอกเล่าวิถีและกระบวนการทำเครื่องปั้นดินเผา
ตั้งแต่การเตรียมดิน การปั้น จนสำเร็จเป็นผลิตภัณฑ์
เมื่อการลงพื้นที่ศึกษา
รวบรวมข้อมูลเสร็จสมบูรณ์ จะมีการจัดอบรมมัคคุเทศก์
อบรมเส้นทางการท่องเที่ยวให้แก่คนในชุมชน เพื่อพร้อมรับผู้มาเยือน
จากวิถี
เรื่องราวอันหลากหลาย ชวนให้มาศึกษาท่องเที่ยว ดื่มด่ำกับอารยธรรมแห่งทุ่งหลวง
...ชุมชนโบราณ อาหารพื้นถิ่น ดินเผาเลื่องชื่อ คือท่วงท่าระบำ หอมล้ำตาลโตนด
โจษจันวัดเก่า บ้านเราโฮมเสตย์...
พรปวีณ์
ทองด้วงนักประชาสัมพันธ์ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน
มหาวิทยาลัยนเรศวร ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น