นายจตุพล เทพมังกร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุพรรณบุรี ที่ 1 เปิดเผยว่าได้ร่วมกับคณะทำงานวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนน (กรณีอุบัติเหตุใหญ่) โดยลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะยางแตกพลิกคว่ำ ทล.357 ถนนวงแหวนรอบเมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านทำให้ มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย มีผู้บาดเจ็บ มากกว่า 10 คน เพื่อตรวจสอบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าข้อเท็จจริงไม่ได้เกิดจากศักยภาพของถนน แต่เกิดจากยานพาหนะ โดยเพิ่งเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่แต่เป็นยางเปอร์เซ็นต์ ประกอบกับเป็นการใช้รถผิดประเภท ซึ่งบรรทุกคนในกระบะรถเป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดเหตุทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเป็นคำสั่งของจังหวัดอยู่แล้วว่าถ้าเกิดเหตุลักษณะดังกล่าวจะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุ บนทางหลวงหมายเลข 340 (ช่วง สาลี-บางยี่หน) อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ทำให้ชุดควบคุม และหม้อแปลงไฟฟ้าเสียหายมีผลให้ ไฟฟ้าแสงสว่างดับ 1 ชุด (ระยะทางประมาณ 1 กม.) งานไฟฟ้า แขวงฯสุพรรณบุรีที่1 ร่วมกับ กฟภ.บางปลาม้า แก้ไข โดยดำเนินการตั้งเสาและติดตั้งหม้อแปลงชั่วคราว และเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหายจากอุบัติเหตุ เพื่อให้ไฟฟ้าแสงสว่าง กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว เคทนี้ก็ถือว่าเป็นอุบัติเหตุใหญ่มีผู้เสียชีวิต และมีความเสียหายของทรัพย์สินหลวง จึงต้องลงไปตรวจสอบ ถ้าไม่รีบซ่อมแซมจะมีผลกับภาพรวม จึงรีบแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น ส่วนค่าเสียหายต้องไปไล่เบี้ยกับผู้ละเมิด แต่ก็ยังไม่รู้ว่าผู้ละเมิดจะชดใช้ให้เราเมื่อไหร่ต้องตรวจสอบและประสานหน่วยงานในจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องทั้งเรื่องประกันของผู้ละเมิด ช่วยบูรณาการให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม กฟภ.บางปลาม้า ดำเนินการตั้งเสาพาดสาย พร้อมติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า ส่วนงานไฟฟ้าแขวงการฯทางดำเนินการติดตั้งชุดควบคุมไฟฟ้าแสงสว่าง ปรับปรุงสายไฟใต้ดินและซ่อมแซมอุปกรณ์บนดวงโคม กม.ที่ 55 ทล. 340 บริเวณที่เกิดเหตุ ขณะนี้ไฟฟ้าแสงสว่างบริเวณดังกล่าวสามารถใช้งานได้ตามปกติครบทุกดวงแล้ว
เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการ อู่ทองนิวส์ ข่าว
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น