พสกนิกรชาวสระบุรี กว่า 2 หมื่น คนร่วมแปรอักษรเลข 9 ไทย แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันนี้ (25 ต.ค.59)เวลา 09.09 น. นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานพิธีแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี พลตรีอัศวิน บุญธรรมเจริญ ผบ.มทบ.18 และ ข้าราชการ ตุลาการ,อัยการ, ทหาร, ตำรวจ, พลเรือน,เหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี,ส่วนราชการต่างๆ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคมฯ ชมรมคนรักในหลวงจังหวัดสระบุรี องค์กรเอกชน และพสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรีทุกหมู่เหล่า ทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติทุกศาสนา และผู้พิการพร้อมใจแต่งกายด้วยชุดสีขาวดำเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 20,000คน. ร่วมแปรอักษรเป็นเลข 9 ไทย ภายในรูปหัวใจ ซึ่งสื่อความหมายถึงหัวใจ ของพี่น้องชาวสระบุรี ที่เต็มเปี่ยม ไปด้วยความจงรักภักดีที่มี ต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
จากนั้นนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำกล่าวคำถวายอาลัยแด่พระองค์ท่าน พร้อมยืนสงบนิ่ง 9 นาที จากนั้นประชาชนต่าง และร่วมกันร้องเพลงพ่อแห่งดิน และเพลงสรรเสริญพระบารมี ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอาลัยยิ่ง ประชาชนบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความโศกเศร้า จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีได้พร้อมใจกันกราบลงบนพื้นเพื่อแสดงความอาลัยต่อหน้าพระบรมสาทิศลักษณ์พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งภาพที่ปรากฏแสดงให้เห็นความเป็นปึกแผ่นและพลังแห่งความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรี เป็นการ ถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ในความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยและชาวสระบุรี ก่อนที่จะร่วมกันปลูกต้นไม้ สนองพระราชดำริ ณ ลานอเนกประสงค์ (ลานพื้นแข็ง) มณฑลทหารบกที่ 18 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองฯ จังหวัดสระบุรี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาทรง เสด็จพระประพาส เมืองสระบุรี โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนิน ณ จังหวัดสระบุรี ในสถานที่ต่างๆ ถึง 14 โอกาส ทรงพระราชทาน อาชีพการเลี้ยงโคนม ให้แก่ชาวสระบุรี นับจุดเริ่มต้นการเลี้ยงโคนม เป็นการสร้างอาชีพและสร้างรายได้แก่เกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นับแต่นั้นชาวจังหวัดสระบุรี จึงได้มีอาชีพใหม่ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพพระราชทาน นอกจากราษฎรจะให้มีนมบริโภคอันเป็นผลดีต่อสุขภาพแล้วยังมีรายได้ช่วยเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง
และได้ทรงสร้าง ศูนย์การเรียนรู้ โครงการ เกษตรทฤษฎีใหม่เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรีและ ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์ ทรงเน้นย้ำเสมอ กับพสกนิกรของพระองค์เสมอ ว่าต่อไป น้ำจะไหล ไฟสว่าง ถนนหนทางจะสะดวก แต่อย่าขายที่ดิน ประชาชนจะมีอยู่ มีกิน ไม่เดือดร้อน จากนั้นมาชาวจังหวัดสระบุรี ก็ได้มีคลองส่งน้ำที่ส่งน้ำมาจากเขื่อนน้ำป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้ปัญหาภัยแล้งหายไป โดยได้นำแนวพระราชดำริ เกษตรพอเพียง ของพระองค์ มาใช้ในชีวิต ทำให้ พสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรี มีความเป็นอยู่ที่ดี มาจนบัดนี้ ในปัจจุบันนี้ได้มีการนำเอาเกษตรทฤษฎีใหม่ไปทำการทดลองขยายผล ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งกรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการจัดทำแปลงสาธิต จำนวน 25 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็นต้น
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ พสกนิกรชาวสระบุรี จึงพร้อมใจกันร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กันอย่างพร้อมเพียง
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
เรวัติ น้อยวิจิตร นสพ.พลังชน rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น