ผวจ.เมืองสองแควยกวิสาหกิจชุมชนฯ บ้านวังส้มซ่าเป็นชุมชนต้นแบบ
เข้มแข็ง สมบูรณ์ เน้นการอนุรักษ์ พัฒนาตามแนวทางของในหลวง
“จากส้มซ่าทีมีอยู่เพียงต้นเดียวในหมู่บ้าน
แล้วขยายผลมาจนถึงทุกวันนี้ นับได้ว่ามีความสามารถสูงมาก
และเป็นการดำเนินงานตามแนวทางของในหลวง”
“ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงรับมอบปลานิลจากราชวงศ์ญี่ปุ่นจำนวน
50 ตัว ภายหลังเหลือเพียง 10 ตัว พระองค์ทรงดูแล ทนุถนอมและขยายพันธุ์ กระทั่งปัจจุบันคนไทยได้กินปลานิลกันทั่วประเทศ”
คำให้สัมภาษณ์ของนายศุภชัย
เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก
ในขณะเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนพัฒนาทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่า
หมู่1 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา
พร้อมด้วยนายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกนางณัฏฐิยาภรณ์ ศรีสุบรรณ์พัฒนาการจังหวัดพิษณุโลก
และคณะกรรมการบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด
วิสาหกิจชุมชนพัฒนาทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่าจัดตั้งขึ้นเมื่อปี
2554 เนื่องจากชาวบ้านเกิดความรู้สึกหวงแหนต้นส้มซ่า ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของหมู่บ้านที่เหลืออยู่เพียงต้นเดียว
จึงได้ร่วมใจกันอนุรักษ์ด้วยการขยายพันธุ์แจกจ่ายทั่วหมู่บ้าน
และเพื่อการต่อยอดอย่างยั่งยืนจึงได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม
จากแชมพู ครีมนวดผม ครีมบำรุงผิว ไปจนถึงเจลอาบน้ำลิปบาล์ม ลิปกลอส และล่าสุดคือ
อโรมาเจลและครีมกันแดด ขณะเดียวกันก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
เช่น กล้วย ข้าว งา มะพร้าว ทับทิม ว่านหางจระเข้ แตงกวา ขมิ้น ใบบัวบก
เป็นต้นจนก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามที่ปลอดจากสารเคมี ธรรมชาติ
100 % โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆเช่น
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลธัญบุรี, มหาวิทยาลัยนเรศวร, สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองพิษณุโลก,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก,
สำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก, องค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์,
สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่ให้การดูแล สนับสนุน ทั้งในด้านงบประมาณ
การบริหารจัดการ และการจัดสรรองค์ความรู้
จากความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนฯบ้านวังส้มซ่า
ได้ก่อตั้งศูนย์เรียนรู้การใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น
ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกขึ้นเมื่อปลายปี 2558 โดยการสร้างอาคารที่มาจากจากผลกำไรของวิสาหกิจฯ
เองเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรชีวภาพอย่างยั่งยืน
แหล่งจัดแสดง/จำหน่ายผลิตภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยว แหล่งประสานความร่วมมือ
และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเครือข่าย นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป
และผู้ที่สนใจในการดำเนินธุรกิจจากฐานชีวภาพ
รวมทั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ขยายผลไปยังชุมชนอื่น ๆนอกจากนี้ยังได้ก่อตั้งส้มซ่าสปาเพื่อสุขภาพขึ้นโดยใช้สมุนไพรในชุมชน
เน้นคุณภาพและราคาประหยัด มีผู้เชี่ยวชาญอบรมให้แก่คนในชุมชน
ปัจจุบันส้มซ่าสปาเพื่อสุขภาพเปิดให้บริการนวดหน้า นวดตัว นวดเท้า และอบตัว
โดยฝีมือของคนในชุมชน ทั้งนักศึกษา เกษตรกร
คนทำงานที่หันมาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง
นับเป็นการสร้างรายได้ให้คนในชุมชนอีกทางหนึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกยังกล่าวอีกว่า“วิสาหกิจชุมชนฯ
บ้านวังส้มซ่ามีความเข้มแข็งและสมบูรณ์ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการสร้างความคิดร่วมกันก่อน
จากนั้นมีการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน มีการสะท้อนการทำงาน วิพากษ์วิจารณ์
ระดมความคิดเห็น และสุดท้ายคือความลงตัวของชุมชน เกิดความร่วมมือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้กว่า
20 ชนิด บ่งบอกถึงความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ การรู้จักเอาใจใส่วัฒนธรรมท้องถิ่น การใช้ทุนทางสังคมคือความรักความสามัคคี
การรู้จักรักษาทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่คือส้มซ่าให้คงอยู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญในชีวิต
จิตวิญญาณของชาวไทยที่เราจะต้องนึกถึงและรักษาไว้”
จากเหตุผลดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกจึงได้ยกให้วิสาหกิจชุมชนพัฒนาทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่าเป็นชุมชนต้นแบบให้แก่ชุมชนอื่น
ๆ โดยพร้อมให้การส่งเสริม สนับสนุน สร้างนวัตกรรม
องค์ความรู้โดยอาศัยความร่วมมือขององค์กรและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม)
จำกัด
ภญ.วรรณศิริ นิ่มพิทักษ์พงศ์
ประธานบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด กล่าวว่า“บริษัทประชารัฐฯ
เป็นการดำเนินการของ 5 ภาคส่วนคือ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ประชาสังคม
และประชาชนดำเนินงานขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเกษตร
การแปรรูป การท่องเที่ยวโดยชุมชน
ผ่านกระบวนการพัฒนาและสร้างประสิทธิภาพตลอดต้นทางถึงปลายทางให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างโดดเด่น
ผนวกกับงานวิจัย นวัตกรรม ตลอดจนการตลาด โดยการประสานงาน ดูแล ให้ความรู้
สร้างการเติบโต โดยพยายามเชื่อมโยงจากหิ้งสู่ห้าง
พัฒนาจากดาวขยับให้เป็นเดือนให้ได้”
ประธานบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลกฯ
กล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมาเราพยายามค้นหาชุมชนตัวจริงและวันนี้เราได้เห็นตัวอย่างแล้วว่า
บ้านวังส้มซ่ามีความพร้อม ความสมบูรณ์ที่สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่
จากความร่วมมือของชุมชนด้วยใจ ด้วยต้นทุนที่มีอยู่ในชุมชนมีผู้นำที่เป็นแกนนำให้ชุมชนขับเคลื่อนได้อย่างยั่งยืน
เพราะบริษัทประชารัฐฯ ไม่ได้อยู่กับชุมชนนั้นตลอดไป
เรามีหน้าที่ช่วยเหลือชุมชนไปเรื่อย ๆ ดังนั้นชุมชนต้องมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้ด้วยตัวเองวิสาหกิจชุมชนพัฒนาทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่าจึงเป็นชุมชนต้นแบบในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายของบริษัทประชารัฐฯ
ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้”
ด้านนางเผอิญ พงษ์สีชมพู
ประธานวิสาหกิจชุมชนพัฒนาทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่า
กล่าวว่า “ดีใจและภูมิใจมากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกสนใจให้ความสำคัญ
และให้เราเป็นชุมชนต้นแบบภายใต้การดำเนินงานของบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลกฯ
ทำให้ชุมชนมีความมุมานะมากยิ่งขึ้น คนอื่น ๆ ในชุมชนหันมาสนใจให้ความร่วมมือ
มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ชุมชนมีความมั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง”
พรปวีณ์ ทองด้วง ฝ่ายประชาสัมพันธ์
วิสาหกิจชุมชนพัฒนาทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น