เมื่อ (30 มิถุนายน 2561) นายสุภาพ สุนทรนนท์ ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดสระบุรีจัด กิจกรรมพบปะสมาชิกและฝึกอบรมอาชีพ การทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ ณ.ศาลาประชาคม S M L หมู่บ้านการเคหะ 2 ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี โดยมีพลตรี ยงยุทธ ชมภูนุช ผู้จัดการภาคกลาง มูลนิธิพอเพียง เดินทางเป็นประธานเปิดงาน มี พลตรีณรงคื นาคปรีชา ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ (ประธานผู้ก่อตั้งสระบุรี)พร้อมคณะ กรรมการ และสมาชิกชมรมฯ ประชาชน จ.สระบุรี เข้าร่วมกิจกรรมสนใจเข้าร่วมอบรมการทำผ้ามัดย้อม เพื่อเป็นแนวทางในการต่อยอดในการประกอบอาชีพ ต่อไป โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทุกท่านได้ลงมือทำเองและให้นำกับไปใช้เป็นของตนเองจากผลงานที่ได้ทำเองท่านละ1ชิ้นคะโยมี นายชยพล แจ้งเจริญ เป็นวิทยากรการอบรม พร้อมกันนี้ หลังจากพิธีปิดการอบรม นายธนัญชัย เอมชนานนท์ ประชาสัมพันธ์ ชมรมฯ ได้นำสมาชิกที่เข้าอบรมร่วมกันตั้งอธิฐานจิต ภาวนาให้ทีมหมู่ป่า อะคานิ มี่ทั้ง 13ชีวิต ที่ประสพเหตุ ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จงกลับออกมาโดยปลอดภัย และขอส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ทุกภาคส่วนที่กำลังปฏิบัติการณ์ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้จงประสบผลสำเร็จและปลอดภัย
องค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปะการนำผ้ามาย้อมด้วยสีที่ได้จากธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งแปลก หรือพึ่งจะค้นพบนวัตกรรมใหม่แต่อย่างใด แต่ความรู้ภูมิปัญญาดังกล่าวได้ถูกค้นพบ ปฏิบัติและถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่สมัยพุทธกาล ดังจะเห็นได้ว่า พระพุทธเจ้าพร้อมสาวกทั้งหลายก็ใช้ผ้าบังสุกุลสีขาวที่ใช้สำหรับห่อศพมาซักแล้วก็ย้อมด้วยสีธรรมชาติเพื่อเป็นผ้าจีวรนุ่งห่มเหมือนกัน ดังนั้น จะเห็นได้ว่าภูมิปัญญาการเอาผ้าแล้วมาย้อมด้วยสีธรรมชาติไม่ใช่ภูมิปัญญาชาวของบ้านธรรมดาๆ แต่เป็นภูมิปัญญาที่มาจากแนวคิดของพระพุทธเจ้า ซึ่งการเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าวเหมือนกับเราได้เรียนรู้และปฏิบัติธรรมะไปด้วย เช่น เราจะได้สมาธิจากการดึงปมชายผ้า หรือการพึงพาธรรมชาติและพึ่งพาตัวเอง หรือการไม่ตามกระแสของสังคมที่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น การทำผ้ามัดย้อมใช้เอง เป็นความภาคภูมิใจของคนทำและคนที่จะสวมใส่ ด้วย เพราะผลงานชิ้นดังกล่าวเป็นศิลปะหนึ่งเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนโดยมีเราเป็นศิลปินเอก ที่สำคัญสีที่ได้จากธรรมชาติจะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บไปในตัวด้วย เช่น ผ้าย้อมคราม ย้อมฝางแดง เป็นต้น แต่ในปัจจุบันศิลปะดังกล่าวกำลังลดหายไปจากสังคม และถูกมองอย่างไร้คุณค่า เพราะว่ากระแสแฟชั่นสมัยใหม่มาแรง แซงตลอด หาซื้อได้ง่าย และตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ ในทุกรูปแบบ เพราะฉะนั้น กิจกรรมดังกล่าวยังรอพวกเราเหล่าศิลปินที่จะสืบสานอุดมการณ์ และศิลปะร่วมสมัย ให้คงอยู่คู่ชุมชนตลอดไป ชั่วกาลนาน
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว) บรรณาธิการข่าว
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น