วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ออกโรง เป็นกาวใจ เคลียร์ปัญหา ภาครัฐ คุกคามสื่อฯ

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นำคณะป้องกันจังหวัดฯ พบ ผู้แทน สื่อมวลชน กรณี นายชาญศักดิ์ รอดเจริญ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลัง อส. เข้าปิดล้อม ผลักดัน ผู้สื่อข่าว เครือ มติชน ข่าวสด และ ทีวีสี ช่อง 9 ให้ออกจากการทำข่าว งานแห่เทียนพรรษา จังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
วันที่ 2 สิงหาคม 2556 เวลา 12.00 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่ราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เดินทางมาที่ ร้านอาหารเรือนไทย พร้อมด้วย ป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี และ นายชาญศักดิ์ รอดเจริญ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดฯ เพื่อเคลียร์ปัญหา กรณีเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด ว่า ข้าราชการ จังหวัดสุพรรณบุรี คุกคามการทำงานของสื่อมวลชน จากเหตุ นายเสถียร ท้วมจันทร์ ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ในเครือ มติชน และ ผู้สื่อข่าว ทีวีสีช่อง 9 ถูกนายชาญศักดิ์ รอดเจริญ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี และ กำลัง อส. เข้าปิดล้อมผลักดัน ให้ออกจากงานแห่เทียนพรรษา จังหวัดสุพรรณบุรี ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำข่าว เพื่อเผยแพร่อยู่ โดยมีผู้แทนสื่อมวลชน นำทีม โดย ประเสริฐ วัฒนพงศ์เมธา ผู้สื่อข่าว ทีวีสีช่อง 3 ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี นายเสถียร ท้วมจันทร์ ผู้สื่อข่าว ทีวีสีช่อง 9 และ ผุ้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวสด ในเครือ มติชน นายนที รุ่งเรืองศรี บรรณาธิการข่าว หนังสือพิมพ์คนสุพรรณ นายสมชัย ศรีสวัสดิ์ บรรณาธิการข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวมวลชน นายเกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กลุ่มเจ้าอินทรีย์ นายเรวัติ น้อยวิจิตร ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์พลังชน และ บรรณาธิการข่าวออนไลน์ เว็บไซต์ สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม เข้าร่วมหารือ
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ซึ่งตนเองรับหน้าที่มาเคลียร์ปัญหาในครั้งนี้ให้ เพราะเห็นว่าน่าจะทำความเข้าใจกันได้ เป็นคนกันเองด้วยกันทั้งนั้น กับ นายชาญศักดิ์ รอดเจริญ ก็ทำงานกันมานาน เป็นคนดี ตั้งใจทำงาน กับ เสถียร ท้วมจันทร์ ก็สนิทสนมคุ้นเคยกัน และ สนับสนุนด้านงานข่าว แก่ทางจังหวัด สุพรรณบุรี มานาน และ เป็นคนดี แต่ตนผิดหวัง และ รู้สึกไม่ดีหน่อยเดียว คือว่าทำไมจะต้องไปลงข่าว และ บอห ท่านรัฐมนตรีท่องเที่ยว ให้ทราบเรื่อง เพราะวันที่เกิดเรื่อง เสถียร ท้วมจันทร์ โทรหาผม และแจ้งเรื่องให้ทราบ ผมก็ไม่ได้นิ่งเฉย ได้เรียก นายชาญศักดิ์ รอดเจริญ มาสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งให้เสถียร ทราบ เพราะอยากให้ใจเย็นลงก่อน ซึ่งมันอาจจะนานไปหน่อยก็ได้ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะ ดำเนินการให้แล้ว แต่พอผู้ให้ทราบเรื่อง สั่งการมา เราเลยรู้สึกไม่ดี ว่าน่าจะคุยกันเองภายในก่อน
โดย นายชาญศักดิ์ รอดเจริญ เปิดใจว่า ตนเองเข้าใจผิด คิดว่า นายเสถียร ท้วมจันทร์ เป็นผู้ปกครองเด็กซึ่งนำลูกมาเที่ยวชมงาน เพราะในที่ประชุมจังหวัดฯ ให้กวดขัน เรื่องช่างภาพสมัครเล่น ที่มาเที่ยวชมงาน และ ตระเวนถ่ายภาพ ในงานซึ่งมีจำนวนมาก ทำให้ขบวนแห่ในงาน เกิดปัญหาด้านการจราจร พอเข้าไปสอบถาม ก็ได้รับแจ้งว่าเป็นผู้สื่อข่าว จึงขอให้แสดงบัตรประจำตัว และ บัตรที่ทางจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ออกให้กับผู้สื่อข่าว เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง จาก ผู้สื่อข่าวฯ จึงได้เรียกกำลัง อส.เข้ามาเพื่อผลักดันให้ออกจากงาน ซึ่งเป็นที่มาของข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์
ด้าน นายประเสริฐ วัฒนพงศ์เมธา พี่ใหญ่วงการสื่อทีวี จาก ค่าย ทีวีสี ช่อง 3 กล่าวว่า ตนเองได้ทราบข่าว จาก เสถียร ท้วมจันทร์ ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ ข่าวสด มติชน และ ทีวีสี ช่อง 9 ก็รู้สึก งง ว่าไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้ เกิดขึ้นมาก่อน ผู้สื่อข่าว ในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ละคน ทำข่าวกันมานาน ไปทำข่าวที่ไหน ก็ไม่เคยเห็นมีใครมาตรวจบัตรนักข่าวสักครั้ง หรือกรณี ชาวบ้านมาเที่ยวชมงาน จะถ่ายภาพ เพื่อเก็บไว้ดู หรือเผยแพร่ในโลกออนไลน์บ้าง ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน ทำไมจะต้องมาไล่ออกจากงาน ตนเองไม่เข้าใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่นี่
นที รุ่งเรืองศรี บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์คนสุพรรณ ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า คุณชาญศักดิ์ รอดเจริญ กับตนเอง สนิทสนม คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี วันงานที่เกิดเรื่อง ก็ทักทายกับตนก่อนจะหันไปหาเสถียร ท้วมจันทร์ ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวสด มติชน ซึงยืนอยู่ด้วยกัน เพื่อขอตรวจบัตร ผู้สื่อข่าว ซึ่ง สีหน้า ท่าทาง และ น้ำเสียง ขณะนั้น ดูรุนแรงไป ต้องให้ นุ่มนวลกว่านี้หน่อย จะดูดี และ เรื่องน่าจะไม่เกิดขึ้น สำหรับกรณี ที่ท่านรองผุ้ว่าราชการจังหวัดฯ บอก.. ไม่น่านำไปลงข่าว และ บอก ท่านรัฐมนตรี สมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ น่าจะเคลียร์กันก่อน นายนที รุ่งเรืองศรี กล่าวว่า พวกเราเป็นสื่อฯ ก็มีเพียง หน้าสื่อเท่านั้น ที่จะใช้เป็นอาวุธ ตอบโต้ความไม่เป็นธรรม ได้ ถ้าเป็นชาวบ้าน คนธรรมดาสามัญ เรื่องก็คงเงียบไป ซึ่งสุดท้าย เขาก็จะนำไปพูดกันเอง ซึ่งท้ายที่สุด ความเสื่อมเสียก็มาถึง ทางจังหวัด อยู่ดี
สมชัย ศรีสวัสดิ์ บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ข่าวมวลชน และ ข่าวมวลชนออนไลน์ เปิดเผยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผู้สื่อข่าว โดนคุกคาม ตนเองก็เคยโดนมา กรณีเช่นนี้ แต่ไม่อยากให้เป็นเรื่อง เป็นราว ก็เลยนิ่งเสีย วันนี้ ท่านรองผุ้ว่าราชการจังหวัดฯ เปิดโอกาส ให้พูด ก็จะขอใช้สิทธิ์ โดยบอกว่า เป็นนักข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี ไม่ค่อยได้รับเกียรติ จาก ทางจังหวัดฯ เท่าไรนัก ไม่อิสระ เหมือนไปทำข่าว ที่จังหวัดอื่นๆ พอเข้างาน พบ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในจังหวัดฯ ก็มักจะเข้ามาทักทาย ให้ความเป็นกันเอง กับ นักข่าว จะเข้าไปถ่ายภาพ ในงาน ก็มักจะได้รับสิทธิ์ ได้รับความสะดวก ต่างจากที่นี่
เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กลุ่มเจ้าอินทรีย์ เปิดเผยว่า ตนเองสังกัดอยู่ นสพ.ไทยรัฐ ที่อู่ทอง เดินทางเข้าเมือง ในวันนี้ เพราะอยากบอกว่า หน่วยงานภาครัฐ ต้องให้ความสำคัญ สื่อฯ มากกว่านี้ ท่านขอมา เราจัดให้ทุกครั้ง แต่ไม่ควรจะมาทำกับ เพื่อนเรา อย่างนี้ มันไม่ดี
เรวัติ น้อยวิจิตร ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์พลังชน ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี และ บรรณาธิการข่าว เว็บไซต์ สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม บอก อยากให้เหตุการณ์ ครั้งนี้ เป็นบทเรียน ซึ่งจะต้องใส่ใจ กันให้มากกว่านี้ สาเหตุส่วนหนึ่ง ที่เกิดขึ้น เกิดจาก หน่วยราชการ กับ สื่อมวลชน ไม่ค่อยได้คุยกัน อยากฝาก ท่านรองผู้ว่าฯ ลองจัดงาน พบปะสังสรรค์ กับสื่อฯ ดูบ้างจะได้คุ้นเคยกันมากขึ้น เวลามีงานสำคัญๆ ก็เชิญสื่อทุกสำนัก มาร่วมงาน อย่าเลือกปฏิบัติ เชิญเฉพาะสื่อยักษ์ใหญ่ เพราะสื่อฯ สำนักเล็กๆ หลายแห่งก็บ่นน้อยใจมา สำหรับกรณี การคุกคามสื่อฯ ในพื้นที่จังหวัดเรา มีมาตลอด เนืองๆ จากที่เพื่อนสื่อมาเล่าให้ฟังบ้าง เจอมาเองบ้าง Thai PBS เคยเล่าให้ฟัง ครั้งพลุระเบิด งานศาลเจ้าพ่อ เมื่อหลายปีก่อน พอแบกกล้องเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ก็ถูกห้ามจาก นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เขตเมือง พอจะเข้าให้ได้ก็ถูกผลักอก แต่เนื่องจากในวันนั้น มีนายตำรวจระดับสูง อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย และท่านได้ปราม ตำรวจท่านนั้น บอกว่า สื่อเขาทำตามหน้าที่ อย่าไปขวางเขา จึงได้มีภาพข่าวออกมา เพื่อให้ประชาชน โดยทั่วไปได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่สุพรรณบุรี แต่หลังจากนั้น ณัฐวุฒิ วงษ์สุวรรณ ผู้สื่อข่าว Thai PBS ก็เจอปัญหาตามมามากมาย มีตำวจไปตรวจใบอนุญาติว่าสถานีขออนุญาตตั้งูกต้องหรือไม่ ผมยังบอกไปว่าอย่างนี้ ที่เขาเรียกว่า คุกคามสื่อฯ ผมเองก็เคยโดนมา งานเดียวกัน จะเข้าไปทำข่าว งานศาลเจ้าพ่อ แต่เป็นช่วงก่อนพลุระเบิด แต่ถูก อส. ขอให้แสดงบัตร ท่ทางจังหวัดฯออกให้นักข่าว ซึ่งเราเองไม่ได้ไปลงทะเบียนที่หน้างาน กะว่าจะเข้าไปเก็บภาพสักชุดหนึ่ง ก็เลยไม่มีบัตร แจ้ง อส. ว่าขอเข้าไปถ่ายภาพ เพื่อมลงข่าว สักชุดหนึ่งเท่านั้นแหละ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต ให้เข้างาน ซึ่งก็เข้าใจว่า เขาทำหน้าที่ของเขา งานนั้นก็เลยไม่ได้ เข้าไปทำข่าว คงคล้ายๆกับกรณี ของเสถียร ถ้ากลับซะ ก็คงไม่มีเรื่อง แต่พอไม่ยอม ก็เลยถูก อส. มาผลักดันให้ออกจากงาน ซึ่งผมว่า มันเป็นเรื่อง ที่ควรปรับระบบกันดูหน่อย จะได้เป็นประโยชน์ ต่อทุกฝ่าย ทางังหวัดก็ได้ถูกประชาสัมพันธ์งาน นักข่าวเอง ก็ได้ข่าวมาลงประชาสัมพันธ์ ในสื่อของสำนักตนเอง
เสถียร ท้วมจันทร์ ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวสด มติชน และ ผู้สื่อข่าว ทีวีสี ช่อง 9 เปิดใจ ให้อภัยทุกคน ที่ก้าวร้าวกับตน เพราะอาจจะไม่รู้จัก ตนจริงๆ เพราะตนเอง ไปทำข่าว ก็มักไม่เปิดเผยตัว ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้ง เรื่องความปลอดภัย อื่นๆ หน่วยงานภาครัฐ หลายคนอาจไม่รู้จัก ก็ถือเป็นเรื่องที่ให้อภัยได้ แต่ก็อยากฝากไว้ว่า เป็นข้าราชการ ควรปฏิบัติต่อประชาชน ด้วยมิตรไมตรี ที่ดี และนักข่าวสุพรรณ ก็มีไม่มาก น่าจะทำความรู้จักกันไว้ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก
วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ขอบคุณทุกคน ที่สละเวลามาพูดคุยกัน ทำให้ได้เรียนรู้กันมากยิ่งขึ้น สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ให้ถือเป็นบทเรียน ที่ต้องจดจำ ไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับทางจังหวัดเอง จะได้กำชับทุกฝ่าย ให้ทำงานอย่างระมัดระวัง ให้มากยิ่งขึ้น สำหรับสื่อมวลชน ก็อย่าได้น้อยใจ ทางจังหวัดฯ เห็นความสำคัญ ทุกคน ทุกค่าย ไม่เลือกปฏิบัติ อย่างแน่นอน ในระยะเวลาอันสั้นนี้ จะพยายาม รวบรวมทะเบียนสื่อฯ เพื่อจัดทำเสื้อสัญญลักษณ์ ไว้ใส่ออกงานทำข่าวให้กับทางจังหวัดฯ จะได้รู้ว่า นี่คือสื่อฯ ของเรา สำหรับเรื่องการพบปะกับสื่อฯ จะต้องดำเนินการ ให้เป็นรูปธรรม โดยเร็ว
บทส่งท้าย วันนี้ผมได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับ หน่วยงานภาครัฐ และ ที่เกี่ยวข้องกับสื่อฯเอง กับหน่วยงานภาครัฐ วันนี้จุดอ่อน คือช่องว่างกับสื่อมวลชน ไม่เป็นพวกเดียวกัน อย่างนี้อันตราย มีอะไรเกิดขึ้น ต่างก็จะเล่นกันตามกติกา เรียกว่า ไม่ต้องมาขอกัน เพราะไม่คุ้นเคยกัน ด้านสื่อฯ เอง วันนี้ก็ได้แสดงให้เห็นกันมาชัดๆแล้วว่า .. วันนี้ เมื่อสื่อฯ ถูกคุกคาม ตนเองในฐานะเป็นสื่อ ได้มาแสดงออกอย่างไรกันบ้าง เมื่อได้ทราบข่าว หรือคิดว่า มันไม่ใช่เราโดนเอง ขอบคุณ พี่แก้ว ประเสริฐ วัฒนพงศ์เมธา พี่ใหญ่ จาก ทีวีสีช่อง 3 สุพรรณบุรี พี่เกรียง เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล จาก หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ค่ายไทยรัฐ บก.น้อย สมชัย ศรีสวัสดิ์ บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ข่าวมวลชน และ ข่าวมวลชนออนไลน์ บก.ต่าย นที รุ่งเรืองศรี บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์คนสุพรรณ ที่สละเวลา มาร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อพัฒนาความร่วมมือ ซึ่งกันและกัน ระหว่างภาครัฐ และ พี่น้องสื่อมวลชน ให้ได้อยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุข ในพื้นที่ เมืองสุพรรณบุรี ของเราตลอดไป
เรวัติ น้อยวิจิตร สุพรรณอินชัวร์ดอทคอม rewet.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น